Top

แพคเกจทัวร์ หลวงพระบาง

ชื่อทัวร์ : แพคเกจทัวร์ หลวงพระบาง
ระยะเวลา : 3 วัน 2 คืน
ราคาเริ่มต้น : 5,900 บาท
วันที่เดินทาง

ลูกค้าเลือกวันเดินทางเองได้

รายละเอียดทัวร์

แพคเกจทัวร์  หลวงพระบาง 3 วัน  2 คืน 

ท่องเที่ยวเมืองวัฒนธรรม  เมืองมรดกโลกหลวงพระบาง -ประเพณีตักบาตรข้าวเหนียว – สวนอนุรักษ์พันธ์หมีดำ – ย้อนรอยวัฒนธรรมแต่ดั่งเดิม

**  รับจัดแบบกรุ๊ปส่วนตัว ไม่จอยทัวร์กับคณะอื่น  มี Tour leader หัวหน้าทัวร์(มีบัตรมัคคุเทศก์นำเที่ยว            สีบรอนซ์เงิน) คอยดูแลตลอดทริปการเดินทาง

 

แพคเกจทัวร์ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน

วันแรก หลวงพระบาง เมืองมรดกโลก ( -/-/ เย็น )

            15.30 น.           เจ้าหน้าที่และรถรอรับคณะทัวร์ที่สนามบินนานาชาติหลวงพระบาง คณะทัวร์เดินทาง             

                     ** คณะเดินทางถึง สนามบินนานาชาติหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาว นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว 

                     ** จากนั้นนำท่านเข้าสู่ตัวเมืองมรดกโลก โดยองค์การยูเนสโก้ได้ยกให้ เมืองหลวงพระบาง เป็นเมืองวัฒนธรรมโลกและสถาปัตยกรรมเก่าแก่ เนื่องจากมีวัดวาอารามเก่าแก่มากมาย มีบ้านเรือนอันเป็นเอกลักษณ์โคโลเนียลสไตล์และขนบธรรมเนียมประเพณีที่งดงามและยังสืบทอดจนถึงปัจจุบัน เมืองหลวงพระบาง เคยเป็นเมืองหลวงเก่าในอดีต โดยพระเจ้าฟ้างุ้มได้รวบรวมแว่นแคว้นต่างๆ ของชนเผ่าไท - ลาว ในเขตลุ่มแม่น้ำโขง แม่น้ำคาน แม่น้ำอู ก่อตั้งเป็นอาณาจักรล้านช้าง ณ ดินแดนริมน้ำโขง คือ หลวงพระบาง 

            17.00น.              เข้าเช็คอินน์ที่โรงแรมซันเวย์ / เฮือนพักพูสี หรือเทียบเท่า

18.00 น.            รับประทานอาหารเย็นที่ ร้านอาหารมีไชผล  ( มื้อที่ 1 ) หลังอาหารค่ำ คณะท่านอิสระเดินเที่ยวชม ตลาดมืด (NIGHT MARKET) บนถนนศรีสว่างวงศ์ ตั้งแต่หน้าพระราชวังจนสุดถนน ให้ท่านได้เลือกชมเลือกซื้อสินค้าในบรรยากาศแบบหลวงพระบางยามราตรี มีทั้งเสื้อยืดสกรีนเป็นภาษาลาว, ผ้าคลุมไหล่, กระเป๋าถือ, เครื่องประดับ, โลหะเกะสลัก, ภาพเขียน ฯลฯ จุดเด่นคือ สินค้าแทบทุกชิ้นเป็นสินค้าแฮนด์เมดของชาวบ้านแท้ๆ  วางจำหน่ายในราคาที่ต่อรองกันได้ อีกทั้งยังมีเบเกอรี่ ต่าง ๆ เพื่อให้ท่านได้ลิ้มลอง และขนมเค้กอันแสนอร่อยนานาชนิด หากท่านใดจะเลือกซื้อของใส่บาตรในเช้าวันรุ่งขึ้นก็สามารถจัดแจงหาซื้อได้เช่นกันพร้อมพักผ่อนตามอัธยาศัย

  

วันที่สอง ตักบาตรข้าว – ซิตี้ทัวร์หลวงพระบาง – น้ำตกตาดกวางสี  ( เช้า / เที่ยง / เย็น )

05.00 น.            ตื่นเช้าร่วมทำบุญตักบาตรข้าวเหนียวประเพณีเก่าแก่ของเมืองหลวง ใส่บาตรข้าวเหนียว พร้อมกับประชาชนชาวหลวงพระบาง ซึ่งพระสงฆ์และสามเณรจากวัดต่างๆ ทั่วเมืองหลวงพระบาง

จะออกบิณฑบาตเป็นแถวนับร้อยรูป ซึ่งเป็นภาพอันน่าประทับใจและสื่อถึงความศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาของชาวเมืองหลวงพระบาง (**ไม่รวมกระติ๊บข้าวเหนียวถ้าท่านไหนต้องการมีค่าใช้จ่ายเพิ่มท่านละ100 บาท)

06.00 น.            เดินเที่ยวชมบรรยากาศวิถีชาวบ้านของเมืองหลวงพระบางที่ตลาดเช้า ตลาดสดให้ท่านเลือกซื้ออาหารพื้นเมืองและชมของป่าซึ่งของป่าบางชนิดก็แปลกตาและเป็นที่สนใจของเหล่านักท่องเที่ยวผู้มาเยือน

07.30 น.           ร่วมรับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม ( มื้อที่ 2 )

08.30 น.            นำคณะออกเดินทางเที่ยวชม สถานที่ต่าง ๆ  ดังนี้

                        ** นำคณะเข้าเที่ยวชม พระราชวังเก่าของกษัตริย์ลาว เดิม  คือพระราชวังเดิมของเจ้ามหาชีวิต สร้างเมื่อพ.ศ.2447   หลังจากการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลลาวใช้เป็นพิพิธภัณฑ์  จัด แสดงโบราณวัตถุและสิ่งของมีค่าต่างๆ อาทิ ธรรมาสน์  บัลลัง เครื่องสูงและราชูปโภคของเจ้าชีวิตของขวัญจากประเทศ ต่างๆ ที่สำคัญที่สุดคือ พระบางพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์  คู่บ้านคู่เมือง ซึ่งประดิษฐานอยู่ในไตรหอทางปีกขวาของ                                         

                          พระราชวังเป็นการชั่วคราว

                        ** นำท่านชม วัดใหม่สุวรรณภูมาราม หรือที่ชาวหลวงพระบางเรียกกันสั้นๆ ว่า "วัดใหม่" เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชบุญทัน ซึ่งเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์สุดท้ายของลาวและยังเคยเป็นที่ประดิษฐานพระบาง พระพุทธรูปคู่เมืองหลวงพระบางในรัชสมัยของเจ้ามหาชีวิตสักรินฤทธิ์ จนกระทั่งถึงปี พ.ศ. 2437 จึงได้อัญเชิญพระบางไปประดิษฐานในหอพระบางภายในพระราชวังจวบจนกระทั่งปัจจุบัน เมื่อมาเยือนวัดแห่งนี้สิ่งที่เราจะสังเกตเห็นถึงความแตกต่างจากวัดอื่นๆ คือ ตัวอุโบสถ (สิม) ลักษณะจะเป็นอาคารทรงโรง หลังคามีขนาดใหญ่ มีชายคาปกคลุมทั้งสี่ด้านสองระดับต่อเนื่องกัน ผนังด้านหน้าพระอุโบสถตกแต่งด้วยภาพลงรักปิด

                         ทองดูเหลืองอร่ามงามตายาวตลอดผนัง เล่าเรื่องพระเวสสันดรชาดก โดยฝีมือช่างหลวงประจำรัชกาลเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ 

                        **จากนั้นนำท่านชม วัดแสนสุขาราม ตามประวัติกล่าวว่าชื่อของวัดมาจากเงินจำนวน 100,000 กีบ  ที่มีผู้บริจาคให้เป็นทุนเริ่มสร้าง เป็นวัดเก่าแก่ที่ถูกสร้างขึ้นภายหลังที่นครหลวงพระบางแยกออกจากนครหลวงเวียงจันทน์ ( พร้อมแจกเบรก ได้แก่น้ำผลไม้ น้ำเปล่า ขนม ผ้าเย็น )

12.00 น.            รับประทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารเทพบุปผา ( มื้อที่ 3 )

13.00 น.            ออกเดินทางเที่ยวชมธรรมชาติของ น้ำตกตาดกวางสี เป็นน้ำตกหินปูน

ขนาดใหญ่สูงราว 70 เมตร มีสายน้ำไหลอาบมาตามหน้าผาผ่านโขดหินน้อยใหญ่ รูปทรงแปลกตา  มีน้ำไหลตลอดปี สภาพป่ามีความร่มรื่น ด้านล่างมีสะพานและเส้นทางเดินชมรอบๆ น้ำตกและที่นั่งให้ชมวิวทิวทัศน์  รวมทั้งมีห้องสำหรับเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวสำหรับท่านที่ต้องการลงเล่นน้ำตก อีกด้วย แต่หากต้องการความเงียบสงบและเป็นส่วนตัวสามารถเดินลัดเลาะขึ้นไป ยังน้ำตกชั้นบน  ( พร้อมแจกเบรก อาหารว่าง ได้แก่น้ำผลไม้ น้ำเปล่า ขนม ผ้าเย็น )

* ชม ศูนย์ทอผ้าลาวหลวงพระบางที่ “ออกพบตก” คำแปลที่มาจาก "East meet West" เป็นการเชื่อมโยงผู้คนเข้าหากันผ่านสิ่งทอ การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และแนวคิด วัฒนธรรม ตัวแทนตะวันออกคือ “แวว” สาวลาวที่แม่ของเธอเป็นช่างทอผ้าชื่อเสียงลือเลื่องในหลวงพระบาง และตัวแทนตะวันตกคือ โจ แอนนา สาวช่างภาพนิตยสารที่อังกฤษ เดินทางมาค้นหาสิ่งที่แตกต่างให้กับชีวิต ความลงตัวมาพบกับกันเมื่อทั้งสองต่างก็มีความสนใจร่วมในสิ่งเดียวกัน และร่วมก่อตั้งขึ้นมา

จากนั้นเดินทางสู่ * พระธาตุภูสี พระธาตุนี้มองเห็นได้แต่ไกลแทบจะทุกมุมเมืองของหลวงพระบาง รอบๆพระธาตุจะมีทางเดินให้ชมวิวทิวทัศน์ ซึ่งสามารถทำให้เห็นวิวของเมืองหลวงพระบางได้โดยรอบ มีบันไดขึ้นยอดพูสี 328 ขั้น ตลอดทางขึ้นร่มรื่นไปด้วยต้นจำปา (ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำชาติลาว)

17.00น.             เดินทางกลับสู่ที่พัก

18.00 น.            รับประทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารพามไช ( มื้อที่ 4 ) พร้อมพักผ่อนตามอัธยาศัย

 

 วันที่สาม ซิตี้ทัวร์หลวงพระบาง – สนามบินหลวงพระบาง – ประเทศไทย ( เช้า / เที่ยง / - )

07.00น.             เช็คเอาท์ออกจากโรงแรมที่พัก รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม ( มื้อที่ 5 )

08.00น.            เดินทางเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ ดังนี้

08.30 น.           ออกเดินทางเที่ยวชม สถานที่ต่าง ๆ  ดังนี้

                        * วัดเชียงทอง   เป็นวัดที่เก่าแก่มากที่สุดวัดหนึ่งในหลวงพระบาง                  สร้างในระหว่าง พ.ศ. 2102-2103 โดยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช                 กษัตริย์ผู้ครองอาณาจักรล้านช้างและล้านนาก่อนที่พระองค์จะ                                               ย้ายเมืองหลวงมายังนครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งเป็นวัดที่สำคัญและ                    มีความงดงามที่สุดจนได้รับการยกย่องจากนักโบราณคดีว่าเป็น    ดั่งอัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมลาว

                        * วัดทาดน้อยหรือวัดพระมหาธาตุราชบวรวิหาร สร้างในปีพ.ศ. 2091 สมัยพระเจ้า

ไซยเชษฐาธิราชได้รับการบูรณะมาแล้วหลายครั้ง แต่ครั้งที่สำคัญเกิดขึ้นในปีพ.ศ.2453

 โดยเจ้ามหาอุปราชบุญคง ภายในสิม แบบล้านช้างมี "ราวเทียน" รูปนาค 24 ตัว ฝีมือการแกะวิจิตรงดงาม หน้าสิมมีเจดีย์ธาตุองค์ใหญ่ บรรจุอัฐิของเจ้าเพชรราชรัตนวงศา อดีตนายกรัฐมนตรี

คนแรกของประเทศลาว และถือเป็นรัฐบุรุษของประเทศลาวยุคใหม่ เฉพาะ พระอุโบสถขนาดใหญ่ มีการตกแต่งเพิ่มเติมรูปสลักบนบานประตูและ  หน้าต่าง แสดงเรื่องเล่าชาดกพระสุธนมโนราห์ดูสวยงามเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นฝีมือสกุลช่างพ่อเฒ่าเพียตัน ด้านหลังมีพระธาตุเจดีย์ยอดทรงระฆังประดับเศวตฉัตร 17 ช่อ นั้นหมายถึง วัดนี้สร้างโดยพระมหากษัตริย์หรือเจ้าชีวิต

* วัดสิริมงคลไชยยาราม  ตัววัดหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ศาสนสถานส่วนใหญ่ยังคงสภาพเดิม เล่าสืบต่อกันมาว่าสร้างในปีพ.ศ. 2306 ในรัชสมัยพระเจ้าโชติกะกุมาร สิมหรืออุโบสถมีลักษณะแบบหลวงพระบางโดยทั่วไป ได้รับซ่อมแซมครั้งล่าสุดเมื่อปี พ.ศ. 2488 ช่างสกุลผู้รับหน้าที่ปฏิสังขรณ์ เปลี่ยนไปตามยุคสมัย จึงทรงผลให้รูปทรงสถาปัตยกรรมของวัดนี้เป็นแบบผสมผสานตามไปด้วย เห็นได้อย่างชัดเจนจากระเบียงโถงด้านหน้าเป็นศิลปะแบบหลวงพระบาง ทรวงทรงหลังคาเป็นแบบเชียงขวาง และประดับตกแต่งด้วยกระจกสีโมเสกแบบเวียงจันทน์ หน้าจั่วประดับลวดลายสวยงาม

“ย่านชุมชนบ้านเจ๊ก” ที่ในอดีตคือย่านค้าขายและที่อยู่ของคนจีนและเวียดนามที่มาทำงานเป็นลูกมือฝรั่งเศส คนลาวจึงเรียกย่านนี้ว่า “บ้านเจ๊ก” มาในวันนี้ย่านบ้านเจ๊กแปรสภาพเป็นร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ร้านกาแฟ ร้านอินเทอร์เน็ต ฯลฯ แต่ว่าลักษณะภายนอกของอาคารก็ยังคงไว้ด้วยสภาพตึกแถวสไตล์โคโลเนียลของ ฝรั่งเศส ซึ่งน่าชมไปด้วยผนังปูนสีอ่อน

มุงหลังคากระเบื้องดินเผาที่เข้ากันอย่างลงตัว กับเสา ประตูหน้าต่าง และบัวประดับผนัง นับเป็นเสน่ห์อันน่ายลอีกอย่างหนึ่งของหลวงพระบาง

12.00 น.            รับประทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารหลวงพระบาง ( มื้อที่ 6 )

13.00 น.            * ชมวัดเก่าแก่ของเมืองหลวงพระบาง วัดวิชุนราช สร้างขึ้นเพื่อประดิษฐาน พระบาง  ซึ่งอาราธนามาจากเมืองเวียงคำ สร้างโดยพระเจ้าวิชุนราชในปีพ.ศ. 2057 และตั้งชื่อวัดตามพระนามของพระองค์เอง ภายในวัดวิชุนราชมีปทุมเจดีย์หรือพระธาตุดอกบัว  ด้วยรูปทรงของเจดีย์มีลักษณะคล้ายแตงโมผ่าครึ่งและเจดีย์รูปทรงแปลกตานี้เองจึงทำให้ชาวเมืองหลวงพระบาง เรียกว่า  พระธาตุหมากโม ( พร้อมแจกเบรก ได้แก่น้ำผลไม้ น้ำเปล่า ขนม ผ้าเย็น )

14.00 น             เดินทางเข้าเช็คอินน์ที่สนามบินนานาชาติหลวงพระบาง

             XX.XX น.         คณะเดินทางกลับสู่ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ