แพคเกจทัวร์ หลวงพระบาง
ลูกค้าเลือกวันเดินทางเองได้
แพคเกจทัวร์ หลวงพระบาง 3 วัน 2 คืน
ท่องเที่ยวเมืองวัฒนธรรม เมืองมรดกโลกหลวงพระบาง -ประเพณีตักบาตรข้าวเหนียว – สวนอนุรักษ์พันธ์หมีดำ – ย้อนรอยวัฒนธรรมแต่ดั่งเดิม
** รับจัดแบบกรุ๊ปส่วนตัว ไม่จอยทัวร์กับคณะอื่น มี Tour leader หัวหน้าทัวร์(มีบัตรมัคคุเทศก์นำเที่ยว สีบรอนซ์เงิน) คอยดูแลตลอดทริปการเดินทาง
แพคเกจทัวร์ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน
วันแรก หลวงพระบาง เมืองมรดกโลก ( -/-/ เย็น )
15.30 น. เจ้าหน้าที่และรถรอรับคณะทัวร์ที่สนามบินนานาชาติหลวงพระบาง คณะทัวร์เดินทาง
** คณะเดินทางถึง สนามบินนานาชาติหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาว นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว
** จากนั้นนำท่านเข้าสู่ตัวเมืองมรดกโลก โดยองค์การยูเนสโก้ได้ยกให้ เมืองหลวงพระบาง เป็นเมืองวัฒนธรรมโลกและสถาปัตยกรรมเก่าแก่ เนื่องจากมีวัดวาอารามเก่าแก่มากมาย มีบ้านเรือนอันเป็นเอกลักษณ์โคโลเนียลสไตล์และขนบธรรมเนียมประเพณีที่งดงามและยังสืบทอดจนถึงปัจจุบัน เมืองหลวงพระบาง เคยเป็นเมืองหลวงเก่าในอดีต โดยพระเจ้าฟ้างุ้มได้รวบรวมแว่นแคว้นต่างๆ ของชนเผ่าไท - ลาว ในเขตลุ่มแม่น้ำโขง แม่น้ำคาน แม่น้ำอู ก่อตั้งเป็นอาณาจักรล้านช้าง ณ ดินแดนริมน้ำโขง คือ หลวงพระบาง
17.00น. เข้าเช็คอินน์ที่โรงแรมซันเวย์ / เฮือนพักพูสี หรือเทียบเท่า
18.00 น. รับประทานอาหารเย็นที่ ร้านอาหารมีไชผล ( มื้อที่ 1 ) หลังอาหารค่ำ คณะท่านอิสระเดินเที่ยวชม ตลาดมืด (NIGHT MARKET) บนถนนศรีสว่างวงศ์ ตั้งแต่หน้าพระราชวังจนสุดถนน ให้ท่านได้เลือกชมเลือกซื้อสินค้าในบรรยากาศแบบหลวงพระบางยามราตรี มีทั้งเสื้อยืดสกรีนเป็นภาษาลาว, ผ้าคลุมไหล่, กระเป๋าถือ, เครื่องประดับ, โลหะเกะสลัก, ภาพเขียน ฯลฯ จุดเด่นคือ สินค้าแทบทุกชิ้นเป็นสินค้าแฮนด์เมดของชาวบ้านแท้ๆ วางจำหน่ายในราคาที่ต่อรองกันได้ อีกทั้งยังมีเบเกอรี่ ต่าง ๆ เพื่อให้ท่านได้ลิ้มลอง และขนมเค้กอันแสนอร่อยนานาชนิด หากท่านใดจะเลือกซื้อของใส่บาตรในเช้าวันรุ่งขึ้นก็สามารถจัดแจงหาซื้อได้เช่นกันพร้อมพักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่สอง ตักบาตรข้าว – ซิตี้ทัวร์หลวงพระบาง – น้ำตกตาดกวางสี ( เช้า / เที่ยง / เย็น )
05.00 น. ตื่นเช้าร่วมทำบุญตักบาตรข้าวเหนียวประเพณีเก่าแก่ของเมืองหลวง ใส่บาตรข้าวเหนียว พร้อมกับประชาชนชาวหลวงพระบาง ซึ่งพระสงฆ์และสามเณรจากวัดต่างๆ ทั่วเมืองหลวงพระบาง
จะออกบิณฑบาตเป็นแถวนับร้อยรูป ซึ่งเป็นภาพอันน่าประทับใจและสื่อถึงความศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาของชาวเมืองหลวงพระบาง (**ไม่รวมกระติ๊บข้าวเหนียวถ้าท่านไหนต้องการมีค่าใช้จ่ายเพิ่มท่านละ100 บาท)
06.00 น. เดินเที่ยวชมบรรยากาศวิถีชาวบ้านของเมืองหลวงพระบางที่ตลาดเช้า ตลาดสดให้ท่านเลือกซื้ออาหารพื้นเมืองและชมของป่าซึ่งของป่าบางชนิดก็แปลกตาและเป็นที่สนใจของเหล่านักท่องเที่ยวผู้มาเยือน
07.30 น. ร่วมรับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม ( มื้อที่ 2 )
08.30 น. นำคณะออกเดินทางเที่ยวชม สถานที่ต่าง ๆ ดังนี้
** นำคณะเข้าเที่ยวชม * พระราชวังเก่าของกษัตริย์ลาว เดิม คือพระราชวังเดิมของเจ้ามหาชีวิต สร้างเมื่อพ.ศ.2447 หลังจากการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลลาวใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ จัด แสดงโบราณวัตถุและสิ่งของมีค่าต่างๆ อาทิ ธรรมาสน์ บัลลัง เครื่องสูงและราชูปโภคของเจ้าชีวิตของขวัญจากประเทศ ต่างๆ ที่สำคัญที่สุดคือ พระบางพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้านคู่เมือง ซึ่งประดิษฐานอยู่ในไตรหอทางปีกขวาของ
พระราชวังเป็นการชั่วคราว
** นำท่านชม วัดใหม่สุวรรณภูมาราม หรือที่ชาวหลวงพระบางเรียกกันสั้นๆ ว่า "วัดใหม่" เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชบุญทัน ซึ่งเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์สุดท้ายของลาวและยังเคยเป็นที่ประดิษฐานพระบาง พระพุทธรูปคู่เมืองหลวงพระบางในรัชสมัยของเจ้ามหาชีวิตสักรินฤทธิ์ จนกระทั่งถึงปี พ.ศ. 2437 จึงได้อัญเชิญพระบางไปประดิษฐานในหอพระบางภายในพระราชวังจวบจนกระทั่งปัจจุบัน เมื่อมาเยือนวัดแห่งนี้สิ่งที่เราจะสังเกตเห็นถึงความแตกต่างจากวัดอื่นๆ คือ ตัวอุโบสถ (สิม) ลักษณะจะเป็นอาคารทรงโรง หลังคามีขนาดใหญ่ มีชายคาปกคลุมทั้งสี่ด้านสองระดับต่อเนื่องกัน ผนังด้านหน้าพระอุโบสถตกแต่งด้วยภาพลงรักปิด
ทองดูเหลืองอร่ามงามตายาวตลอดผนัง เล่าเรื่องพระเวสสันดรชาดก โดยฝีมือช่างหลวงประจำรัชกาลเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์
**จากนั้นนำท่านชม วัดแสนสุขาราม ตามประวัติกล่าวว่าชื่อของวัดมาจากเงินจำนวน 100,000 กีบ ที่มีผู้บริจาคให้เป็นทุนเริ่มสร้าง เป็นวัดเก่าแก่ที่ถูกสร้างขึ้นภายหลังที่นครหลวงพระบางแยกออกจากนครหลวงเวียงจันทน์ ( พร้อมแจกเบรก ได้แก่น้ำผลไม้ น้ำเปล่า ขนม ผ้าเย็น )
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารเทพบุปผา ( มื้อที่ 3 )
13.00 น. ออกเดินทางเที่ยวชมธรรมชาติของ น้ำตกตาดกวางสี เป็นน้ำตกหินปูน
ขนาดใหญ่สูงราว 70 เมตร มีสายน้ำไหลอาบมาตามหน้าผาผ่านโขดหินน้อยใหญ่ รูปทรงแปลกตา มีน้ำไหลตลอดปี สภาพป่ามีความร่มรื่น ด้านล่างมีสะพานและเส้นทางเดินชมรอบๆ น้ำตกและที่นั่งให้ชมวิวทิวทัศน์ รวมทั้งมีห้องสำหรับเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวสำหรับท่านที่ต้องการลงเล่นน้ำตก อีกด้วย แต่หากต้องการความเงียบสงบและเป็นส่วนตัวสามารถเดินลัดเลาะขึ้นไป ยังน้ำตกชั้นบน ( พร้อมแจกเบรก อาหารว่าง ได้แก่น้ำผลไม้ น้ำเปล่า ขนม ผ้าเย็น )
* ชม ศูนย์ทอผ้าลาวหลวงพระบางที่ “ออกพบตก” คำแปลที่มาจาก "East meet West" เป็นการเชื่อมโยงผู้คนเข้าหากันผ่านสิ่งทอ การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และแนวคิด วัฒนธรรม ตัวแทนตะวันออกคือ “แวว” สาวลาวที่แม่ของเธอเป็นช่างทอผ้าชื่อเสียงลือเลื่องในหลวงพระบาง และตัวแทนตะวันตกคือ โจ แอนนา สาวช่างภาพนิตยสารที่อังกฤษ เดินทางมาค้นหาสิ่งที่แตกต่างให้กับชีวิต ความลงตัวมาพบกับกันเมื่อทั้งสองต่างก็มีความสนใจร่วมในสิ่งเดียวกัน และร่วมก่อตั้งขึ้นมา
จากนั้นเดินทางสู่ * พระธาตุภูสี พระธาตุนี้มองเห็นได้แต่ไกลแทบจะทุกมุมเมืองของหลวงพระบาง รอบๆพระธาตุจะมีทางเดินให้ชมวิวทิวทัศน์ ซึ่งสามารถทำให้เห็นวิวของเมืองหลวงพระบางได้โดยรอบ มีบันไดขึ้นยอดพูสี 328 ขั้น ตลอดทางขึ้นร่มรื่นไปด้วยต้นจำปา (ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำชาติลาว)
17.00น. เดินทางกลับสู่ที่พัก
18.00 น. รับประทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารพามไช ( มื้อที่ 4 ) พร้อมพักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่สาม ซิตี้ทัวร์หลวงพระบาง – สนามบินหลวงพระบาง – ประเทศไทย ( เช้า / เที่ยง / - )
07.00น. เช็คเอาท์ออกจากโรงแรมที่พัก รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม ( มื้อที่ 5 )
08.00น. เดินทางเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ ดังนี้
08.30 น. ออกเดินทางเที่ยวชม สถานที่ต่าง ๆ ดังนี้
* วัดเชียงทอง เป็นวัดที่เก่าแก่มากที่สุดวัดหนึ่งในหลวงพระบาง สร้างในระหว่าง พ.ศ. 2102-2103 โดยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช กษัตริย์ผู้ครองอาณาจักรล้านช้างและล้านนาก่อนที่พระองค์จะ ย้ายเมืองหลวงมายังนครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งเป็นวัดที่สำคัญและ มีความงดงามที่สุดจนได้รับการยกย่องจากนักโบราณคดีว่าเป็น ดั่งอัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมลาว
* วัดทาดน้อยหรือวัดพระมหาธาตุราชบวรวิหาร สร้างในปีพ.ศ. 2091 สมัยพระเจ้า
ไซยเชษฐาธิราชได้รับการบูรณะมาแล้วหลายครั้ง แต่ครั้งที่สำคัญเกิดขึ้นในปีพ.ศ.2453
โดยเจ้ามหาอุปราชบุญคง ภายในสิม แบบล้านช้างมี "ราวเทียน" รูปนาค 24 ตัว ฝีมือการแกะวิจิตรงดงาม หน้าสิมมีเจดีย์ธาตุองค์ใหญ่ บรรจุอัฐิของเจ้าเพชรราชรัตนวงศา อดีตนายกรัฐมนตรี
คนแรกของประเทศลาว และถือเป็นรัฐบุรุษของประเทศลาวยุคใหม่ เฉพาะ พระอุโบสถขนาดใหญ่ มีการตกแต่งเพิ่มเติมรูปสลักบนบานประตูและ หน้าต่าง แสดงเรื่องเล่าชาดกพระสุธนมโนราห์ดูสวยงามเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นฝีมือสกุลช่างพ่อเฒ่าเพียตัน ด้านหลังมีพระธาตุเจดีย์ยอดทรงระฆังประดับเศวตฉัตร 17 ช่อ นั้นหมายถึง วัดนี้สร้างโดยพระมหากษัตริย์หรือเจ้าชีวิต
* วัดสิริมงคลไชยยาราม ตัววัดหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ศาสนสถานส่วนใหญ่ยังคงสภาพเดิม เล่าสืบต่อกันมาว่าสร้างในปีพ.ศ. 2306 ในรัชสมัยพระเจ้าโชติกะกุมาร สิมหรืออุโบสถมีลักษณะแบบหลวงพระบางโดยทั่วไป ได้รับซ่อมแซมครั้งล่าสุดเมื่อปี พ.ศ. 2488 ช่างสกุลผู้รับหน้าที่ปฏิสังขรณ์ เปลี่ยนไปตามยุคสมัย จึงทรงผลให้รูปทรงสถาปัตยกรรมของวัดนี้เป็นแบบผสมผสานตามไปด้วย เห็นได้อย่างชัดเจนจากระเบียงโถงด้านหน้าเป็นศิลปะแบบหลวงพระบาง ทรวงทรงหลังคาเป็นแบบเชียงขวาง และประดับตกแต่งด้วยกระจกสีโมเสกแบบเวียงจันทน์ หน้าจั่วประดับลวดลายสวยงาม
“ย่านชุมชนบ้านเจ๊ก” ที่ในอดีตคือย่านค้าขายและที่อยู่ของคนจีนและเวียดนามที่มาทำงานเป็นลูกมือฝรั่งเศส คนลาวจึงเรียกย่านนี้ว่า “บ้านเจ๊ก” มาในวันนี้ย่านบ้านเจ๊กแปรสภาพเป็นร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ร้านกาแฟ ร้านอินเทอร์เน็ต ฯลฯ แต่ว่าลักษณะภายนอกของอาคารก็ยังคงไว้ด้วยสภาพตึกแถวสไตล์โคโลเนียลของ ฝรั่งเศส ซึ่งน่าชมไปด้วยผนังปูนสีอ่อน
มุงหลังคากระเบื้องดินเผาที่เข้ากันอย่างลงตัว กับเสา ประตูหน้าต่าง และบัวประดับผนัง นับเป็นเสน่ห์อันน่ายลอีกอย่างหนึ่งของหลวงพระบาง
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารหลวงพระบาง ( มื้อที่ 6 )
13.00 น. * ชมวัดเก่าแก่ของเมืองหลวงพระบาง วัดวิชุนราช สร้างขึ้นเพื่อประดิษฐาน พระบาง ซึ่งอาราธนามาจากเมืองเวียงคำ สร้างโดยพระเจ้าวิชุนราชในปีพ.ศ. 2057 และตั้งชื่อวัดตามพระนามของพระองค์เอง ภายในวัดวิชุนราชมีปทุมเจดีย์หรือพระธาตุดอกบัว ด้วยรูปทรงของเจดีย์มีลักษณะคล้ายแตงโมผ่าครึ่งและเจดีย์รูปทรงแปลกตานี้เองจึงทำให้ชาวเมืองหลวงพระบาง เรียกว่า พระธาตุหมากโม ( พร้อมแจกเบรก ได้แก่น้ำผลไม้ น้ำเปล่า ขนม ผ้าเย็น )
14.00 น เดินทางเข้าเช็คอินน์ที่สนามบินนานาชาติหลวงพระบาง
XX.XX น. คณะเดินทางกลับสู่ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ