Top

ทัวร์กัมพูชา พนมเปญ เสียมเรียบ

ชื่อทัวร์ : ทัวร์กัมพูชา พนมเปญ เสียมเรียบ
สายการบิน : Air Asia
ระยะเวลา : 3 วัน 2 คืน
ราคาเริ่มต้น : 12,900 บาท
วันที่เดินทาง

ออกเดินทางทุกวัน

คลิกเลือกวันเดินทางในโปรแกรมทัวร์

รายละเอียดทัวร์

ทัวร์กัมพูชา พนมเปญ เสียมเรียบ

เที่ยวกัมพูชา 3 วัน 2 คืน บินแอร์เอเชีย Air Asia

ไฮไลท์

  • ชมปราสาท นครวัด 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก 
  • นำทุกท่านกราบสักการะ วัดพนม วัดที่สำคัญของกรุงพนมเปญ
  • ชมปราสาทตาพรหม และ ชมความสวยงามของ ปราสาทบันทายศรี
  • ล่องเรือชม โตนเลสาบ  ทะเลสาบน้ำจืด ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
  • ชอปปิงสินค้าพื้นเมือง ตลาดซาทะไม / ตลาดซาจ๊ะ และสินค้าท้องถิ่น ของเมืองเสียมเรียบ
  • นำท่านสักการะ ศาลองค์เจ๊ก องค์จอม ชมศูนย์หัตถกรรมทอผ้าไหม
  • อิ่มอร่อยกับพิเศษ บุฟเฟ่ต์นานาชาติ พร้อมชมโชว์การแสดงอัปสราที่งดงาม
  • แถมฟรี!! ชุดซัวสะไดย (เสื้อยืดซัวสะไดย+ถุงผ้า+พัด+น้ำดื่ม+ผ้าเย็นไม่จำกัด)

วันแรก             กรุงเทพฯ พนมเปญ   อนุสาวรีย์อิสรภาพ  วัดพนม คุกตวลสเลง พระบรมราชวังจตุมุขสิริมงคล      พระเจดีย์เงิน  ตลาดชาทะไม        (-/กลางวัน/เย็น)                                                                                                                           

04.00 น.            พร้อมกันที่สนามบินดอนเมือง อาคาร 1 ขาออก ชั้น 3 ประตู 1 เคาน์เตอร์สายการบินไทยแอร์เอเชีย

Thai Air Asia (FD) โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ทุกท่าน

06.30 น.            ออกเดินทางสู่ เมืองพนมเปญ โดยเที่ยวบิน FD 608 (ใช้เวลาบิน 1 ชั่วโมง กับ 15 นาที)

**หมายเหตุ ตั้งแต่ เดือนพฤศจิกายน 62 เป็นต้นไป ทางสายการบินมีการเปลี่ยนแปลงเวลาบินขาไป

                     ออกจากดอนเมืองเวลา 07.10 น. ถึงพนมเปญเวลา 08.25 น.(กรุณาสอบถามเจ้าหน้าที่ก่อนทำการจอง)**   

07.40 น.             เดินทางถึง สนามบินพนมเปญ ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (เวลาท้องถิ่นที่กัมพูชา เท่ากับประเทศไทย)

09.00 น.             เดินทางถึง กรุงพนมเปญ เมืองหลวงของประเทศกัมพูชา ระยะทางประมาณ 15 ก.ม.

จากนั้น              เดินทางถึง : อนุสาวรีย์อิสรภาพหรือ วิมานเอกราช (Independence Monument) อนุสาวรีย์เอกราชกัมพูชาสร้างขึ้นเมื่อปี 1958 เปรียบเสมือนดอกบัวขนาดใหญ่ที่บานอยู่ใจกลางกรุงพนมเปญเพื่อรำลึกถึงการหลุดพ้นจากการปกครองของฝรั่งเศส กัมพูชาอยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศสมาตั้งแต่ปี 1863-1953 เส้นทางสู่อิสรภาพของกัมพูชานั้นไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะวีรบุรุษผู้กล้าหลายพันคนจำต้องสละชีวิตเพื่อแลกมา นอกจากนี้ อนุสาวรีย์แห่งนี้ยังเป็นอนุสรณ์ถึงชาวกัมพูชาทั้งหญิงและชายที่เสียสละชีวิตเพื่อชาติด้วย

จากนั้น              เดินทางสู่ : วัดพนม(Phnom Temple)วัดพนมเป็นวัดที่สำคัญมาก ซึ่งกรุงพนมเปญก็มีที่มาจากวัดแห่งนี้ด้วย ดังมีตำนานพื้นบ้านกล่าวว่า เมื่อราวหกร้อยปีก่อน มีเศรษฐีนีชาวเขมรผู้หนึ่งชื่อเพ็ญ ได้ไปพบพระพุทธรูปน้ำพัดมาเกยฝั่งหลายองค์ นางมีศรัทธาแก่กล้าในพระศาสนา จึงได้สร้างวัดขึ้นบนยอดเขาที่อยู่ใกล้ๆ กันเพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปเหล่านั้น แม้เขาลูกนี้จะสูงเพียง 27 เมตร แต่ก็ถือเป็นเขาที่สูงที่สุดในละแวกนี้ จึงเรียกกันเรื่อยมาว่า "พนมเปญ" แปลว่า "เขายายเพ็ญ"

จากนั้น               เดินทางถึง : คุกตวลสเลง (Tuol SalengGenocide Museum)"ตวลสเลง" เป็นชื่อของคุกสมัยที่เขมรแดงครองประเทศดั้งเดิมคุกนั้นเป็นโรงเรียนมาก่อน ตวลสเลง มีชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า s-21 (Security Office 21) ใช้กักขังและขู่เข็ญคนที่คิดว่าเป็นศัตรู หรือเป็นกบฏต่อประเทศชาติและรัฐบาล ทุกภูมิภาค ทุกระดับชั้น รวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน โดยจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ผู้ถูกคุมขังสารภาพผิด และลงท้ายด้วยการฆ่า จุดหมายปลายทางของนักโทษทุกคนในนี้ ทางเดียวที่จะออกไปจากคุกแห่งนี้คือ กาสิ้นลมหายใจ แต่กว่าที่จะถึงเวลาได้ออกไปนั้นต้องเผชิญกับการกระทำที่ทารุณ โดยเหล่าบรรดานักโทษจะถูกทรมานด้วยวิธีการต่างๆ นาๆ

เที่ยง                  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อิ่มอร่อยกับบุฟเฟต์นานาชาติ

จากนั้น              เดินทางสู่ : พระบรมราชวังจตุมุขสิริมงคล (Royal Palace Of Phnom Penh)พระบรมราชวังจตุมุขสิริมงคลเป็นกลุ่มอาคารพระราชมนเทียรของพระมหากษัตริย์กัมพูชา พระเจ้าแผ่นดินกัมพูชาเสด็จประทับที่นี้นับแต่แรกสร้างใน ค.ศ. 1866 และเสด็จไปประทับที่อื่นเมื่อบ้านเมืองวุ่นวายเพราะเขมรแดงเรืองอำนาจ ชาวไทยมักเรียกพระราชวังแห่งนี้ว่า "พระราชวังเขมรินทร์" พระบรมราชวังนี้สร้างขึ้นหลังจากที่พระบาทสมเด็จพระนโรดม พรหมบริรักษ์ ทรงย้ายเมืองหลวงจากกรุงอุดง มายังกรุงพนมเปญในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 19

สักการะ : พระเจดีย์เงินหรือ วัดพระแก้ว เหตุที่เรียกว่า พระเจดีย์เงิน เพราะว่า พื้นของอาคารปูลาดด้วยแผ่นเงินกว่า 5,000 แผ่น แต่ละแผ่นหนักมากกว่า 1 กิโลกรัม รวมน้ำหนักทั้งสิ้น 5 ตัน แต่คนส่วนใหญ่รู้จักกันในนาม "วัดพระแก้วเขมร" ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของกัมพูชาอยู่สององค์คือ พระแก้วมรกตสมัยศตวรรษที่ 17 และพระพุทธรูปทองที่หล่อด้วยทองคำบริสุทธิ์ 90 กิโลกรัม ประดับด้วยเพชร 9,548 เม็ด เม็ดที่ใหญ่ที่สุดหนักถึง 25 กะรัต 

 

19.00น.              บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร หลังอาหารนำท่านเดินช้อปปิ้ง ณ ตลาดชาทะไม อิสระให้ท่านได้เลือกชมเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองเสียมเรียบตามอัธยาศัย

                        **นำท่านเข้าสู่ที่พัก SAMNANGLAOR HOTEL  โรงแรมหรูหราระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า**

 

วันที่สอง           พนมเปญ • เสียมเรียบ • ล่องเรือโตนเลสาบ • ศาลองค์เจ๊ก • องค์จอม • ชมโชว์ระบำอัปสรา   (เช้า/กลางวัน/เย็น)                                                                                                                          

เช้า                   บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้น              หลังอาหารเช้านำท่านเดินทางสู่ เมืองเสียมเรียบ ชมวิวทิวทัศน์และวิถีชีวิตชาวกัมพูชาระหว่างเส้นทาง (ระยะทาง 350 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง)

เที่ยง                 ä รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้น              เดินทางสู่: โตนเลสาบ (Tonle Sap Lake)นำท่านล่องเรือชม โตนเลสาบ หรือ ทะเลสาบเขมรเป็นทะเลสาบน้ำจืด ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งอยู่บริเวณตอนกลางประเทศกัมพูชา มีพื้นที่ประมาณ 7500 ตารางกิโลเมตร ทะเลสาบเขมรเกิดจากแม่น้ำโขง ซึ่งแม่น้ำโขงไหลผ่านมีความยาวถึง 500 กิโลเมตร ครอบคลุมถึงพื้นที่ 5 จังหวัดของกัมพูชา ได้แก่ กำปงชนัง โพธิสัตว์ พระตะบอง และเสียมราฐ เป็นทะเลสาบที่มีปลาน้ำจืดชุกชุมมากแห่งหนึ่งประมาณ 300 ชนิด

จากนั้น              นำทุกท่านกรายสักการะ ศาลองค์เจ๊ก องค์จอม ที่มีชื่อเสียงตั้งแต่สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 ในสมัยนั้นองค์เจ๊ค องค์จอม มีความสามารถในเรื่องการรบเป็นอย่างมากเป็นที่เกรงขามของข้ำศึกศัตรู เป็นผู้ที่มีจิตใจงามเป็นอย่างมากในยามว่างเว้นจากศึกสงคราม หากมีนักโทษคนไหนที่ไม่ได้ทำความผิดที่ร้ายแรงมาก พระองค์ก็จะขออภัยโทษให้  จึงเป็นที่เคารพรัก นับถือของคนในเมืองเสียมเรียบเป็นอย่างมาก  400 ปีต่อมา กัมพูชาเปลี่ยนมานับถือศาสนาพุทธ และได้มีการศึกษาประวัติของเจ้าเจกและเจ้าจอม และเห็นว่าเป็นบุคคลตัวอย่างที่ประพฤติตนดีมาก จึงได้มีการสร้างรูปเคารพ

19.00น.              บริการอาหารค่ำแบบบุฟเฟ่ต์ อิ่มอร่อยกับอาหารนานาชาติชนิด พร้อมชมโชว์การแสดงชุดระบำอัปสร ศิลปะพื้นเมืองของกัมพูชาที่เป็นการแสดงที่สวยงาม ให้ทุกท่านได้เก็บภาพเป็นที่ระลึกไว้เป็นความทรงจำหลังอาหารนำท่านเดินช้อปปิ้ง ณ ตลาดซาจะ อิสระให้ท่านได้เลือกชมเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองเสียมเรียบตามอัธยาศัย

**นำท่านเข้าสู่ที่พัก โรงแรมหรูหราระดับ 4 ดาว MEMORIE HOTEL หรือเทียบเท่า**  

 

วันที่สาม         นครธม ปราสาทบันทายศรี ปราสาทบายน ปราสาทตาพรหม นครวัด ตลาดซาจ๊ะ สนามบินเสียมเรียบ     ดอนเมือง                                   (เช้า/กลางวัน/เย็น)                                                                                                                           

เช้า                     บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้น              เดินทางสู่เมืองพระนครหรือนครธม ผ่านชมสะพานนาคราช เพื่อเข้าสู่เมืองนครธม ซึ่งเป็นสะพานที่พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 กษัตริย์เขมรใช้เป็นทางเสด็จผ่านเข้าออกเมืองนครธม ประตูเมือง ที่มียอดเป็นรูปพระโพธิสัตว์หันพระพักตร์ไปทั้ง 4 อาณาจักรเขมร สถาปนาขึ้นในปลายคริสต์ศวรรษที่ 12 โดยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 มีอาณาเขตครอบคลุมพื้นที่ 9 ตารางกิโลเมตร อยู่ทางทิศเหนือของ นครวัด ภายในเมืองมีสิ่งก่อสร้างมากมายนับแต่สมัยแรกๆ นำทุกท่าน เข้าชมปราสาทบายน เป็นโบราณสถานที่สำคัญที่สุดเป็นลำดับที่สองที่ควรมาเที่ยวชมเมื่อมาเยือนอังกอร์ สร้างขึ้นเมื่อปลายคริสต์ศตวรรษที่ 12 ในรัชสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ปราสาทบายนสร้างขึ้นจากหินทรายและเป็นสัญลักษณ์ของเขาพระสุเมรุ เมื่อมองจากด้านนอก จะแลดูคล้ายกับเขาวงกต แต่ความจริงแล้ว ลักษณะของปราสาทบายนนั้นสร้างขึ้นตามแบบแผนของยันตระ ซึ่งเป็นเรขาคณิตของพุทธศาสนาของอินเดีย เป็นสัญลักษณ์ของมันดาล่า หรือรูปวงกลมอันเป็นสัญลักษณ์แทนจักรวาลและพลังศักดิ์สิทธิ์ในศาสนาฮินดู เมื่อได้เข้าไปสัมผัสยังปราสาทแห่งนี้จะรู้สึกเหมือนมีคนคอยจ้องมองเราอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่ประทับใจของปราสาทแห่งนี้

จากนั้น              นำท่านชม ปราสาทตาพรหม (Ta Prohm) เป็นปราสาทที่ถูกทิ้งร้างมานานถึง 500 ปี สร้างขึ้นในปี พศ.1729 เป็น   ปราสาทหินในยุคสุดท้ายของอาณาจักรขอม สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ที่ทรงเลื่อมใสในพุทธศาสนา ปราสาทตาพรหมจึงเป็นทั้งปราสาทและวัดทางพุทธศาสนาไปในตัว ภายในปราสาทมีภาพแกะสลักอันเป็นเรื่องราวทางพุทธประวัติ นิกายมหายาน ทั้งหน้าบัน และทับหลัง แต่ในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 8 ที่ทรงเลื่อมใสในศาสนาฮินดู ภาพสลักบางภาพได้ถูกดัดแปลงให้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับศาสนาฮินดู ส่วนพระพุทธรูป ก็ถูกดัดแปลงให้เป็นศิวะลึงค์

เที่ยง                   บริการอาหารกลางวัน บุฟเฟ่ต์  

จากนั้น              ชมสิ่งมหัศจรรย์ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ปราสาทนครวัด ที่เปรียบเสมือนวิมานของเทพเจ้าสูงสุดที่บรรจงชะลอลงมาประดิษฐานไว้ในโลกมนุษย์และถือว่าเป็นสถานที่สุดยอดของการเดินทางไปในครั้งนี้ ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. 1650-1720โดยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 โดยถวายเป็นพุทธบูชา ชมรูปสลักนางอัปสรนับหมื่นองค์ ชมภาพแกะสลักนูนต่ำ การกวนเกษียรสมุทร  ซึ่งเป็นพิธีกรรมโบราณอันศักดิ์สิทธิ์น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ท่านจะได้ชมภาพการยกกองทัพของพระเจ้า สุริยวรมันที่ 1 โดยมีภาพกองทัพของเสียมกุก ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของพวกเราชาวไทยปรากฏอยู่

จากนั้น              เดินทางชม ปราสาทบันทายศรี หรือเรียกตามสำเนียงเขมรว่า บันเตียไสร หมายถึง ปราสาทสตรีหรือป้อมสตรี สร้างตอนปลายสมัยพระเจ้าราเชนทรวรมินทร์(พ.ศ.1510) เป็นปราสาทหลังเล็กๆกลุ่มหนึ่ง สร้างด้วยหินทรายสีชมพูแกะและสลักภาพนูนสูงได้อย่างสวยงามมากเป็นปราสาทหินที่ถือได้ว่างดงามที่สุดในประเทศกัมพูชา มีความกลมกลืนอย่างสมบูรณ์ และเป็นปราสาทแห่งเดียวที่สร้างเสร็จแล้วกว่า 1000 ปี แต่ลวดลายก็ยังมีความคมชัด เหมือนกับสร้างเสร็จใหม่ ๆ ปราสาทบันทายศรี มีความอ่อนช้อยงดงามช่างได้แกะสลักอย่างวิจิตบรรจงจนทำให้เหล่านางอัสราและเทพธิดาที่ประดับบนผนังดูเสมือนมีชีวิตจริงๆ

จากนั้น              นำทุกท่านเดินทางไป ช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมือง ตลาดซาจ๊ะ ชอปปิ้งสินค้าท้องถิ่น ของเมืองเสียมเรียบ ของตลาดซาจ๊ะก็ได้แก่ เสื้อผ้า กระเป๋า ผ้าทอ ของฝากพวกพวง กุญแจและอื่นๆ เครื่องเงิน อัญมณี

                        และอื่นๆ อีกมากมายให้ทุกท่านได้ เลือกซื้อ ของฝากกลับเมืองไทย

   

ค่ำ                       บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร  

21.45 น.            ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ  โดยสายการไทยแอร์เอเซีย เที่ยวบินที่  FD 619

22.50 น.            เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม