Top

MYANMAR

ชื่อทัวร์ : MYANMAR
สายการบิน : Nok Air
ระยะเวลา : 1 วัน
ราคาเริ่มต้น : 4,990 บาท
วันที่เดินทาง

ออกเดินทางทุกวัน

กรุณาติดต่อทีมงาน ทัวร์ใจดี

Line Id : tourjaidee

รายละเอียดทัวร์

ทัวร์พม่า ไปพม่า ไหว้พระพม่า พม่า One Day Trip วันเดียวก็เที่ยวพม่าได้ 

1 ใน 5 มหาบูชาสถานอันศักดิ์สิทธิ์  “เจดีย์ชเวดากอง” คู่บ้านคู่เมืองของชาวพม่า

ขอพร เทพทันใจชมพระนอนตาหวานสวยงามที่สุดในพม่า

เดินทางโดยสายการบิน NOK AIR (DD)

 

  • สักการะมหาเจดีย์ชเวดากอง (1 ใน 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพม่า)
  • ขอพรเทพทันใจ และขอพรจากพระพุทธรูปทองคำ ที่ เจดีย์โบตาทาวน์
  • ขอพรหลวงพ่องาทัตยี พระพุทธรูปปางมารวิชัย ทรงเครื่องแบบกษัตริย์
  • สักการะ พระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี (พระนอนตาหวาน)
  • สักการะวัดพระหินอ่อน
  • ช้อปปิ้งสินค้าพิ้นมือง แบบจุใจ ณ ตลาดสก๊อต

ทัวร์พม่าไหว้พระ วันเดียว จ่ายเงินครั้งเดียวรวมทิป

วันที่ 1

กรุงเทพฯ(สนามบินดอนเมือง)-ย่างกุ้ง(สนามบินมิงกาลาดง) (DD4230 : 06.30-07.35)-เจดีย์ชเวดากอง -พระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี (พระนอนตาหวาน)-เจดีย์โบตะทาวน์ (เทพทันใจ/เทพกระซิบ)-พระงาทัตยี-ตลาดสก๊อต-วัดพระหินอ่อน-ย่างกุ้ง(สนามบินมิงกาลาดง)-กรุงเทพฯ (สนามบินดอนเมือง)(DD4239 : 21.00-22.55)

04.00 น.

พร้อมกัน ท่าอากาศยานดอนเมือง อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศชั้น 3 เคาน์เตอร์ สายการบินนกแอร์ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับอำนวยความสะดวกจัดเตรียมเอกสารการเดินทางให้กับทุกท่าน

06.30 น.

ออกเดินทางสู่ ย่างกุ้ง โดยสายการบินนกแอร์ เที่ยวบินที่ DD4230 (ไม่มีอาหารบนเครื่อง และไม่มีนำหนักกระเป๋าโหลดใต้เครื่อง)

07.35 น.

เดินทางถึง สนามบินมิงกาลาดง กรุงย่างกุ้ง ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (เวลาท้องถิ่นที่เมียนมาร์ช้ากว่าประเทศไทยครึ่งชั่วโมง)

 

นำท่านสักการะ พระมหาเจดีย์ชเวดากอง (Shwedagon Pagoda) พระมหาเจดีย์คู่บ้านคู่เมืองพม่า (1 ใน 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพม่า) เป็นเจดีย์ทองคำที่งดงาม ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางเมืองย่างกุ้ง มีความสูง 109 เมตร ประดับด้วยเพชร 544 เม็ด ทับทิม นิล และบุษราคัมอีก 2,317 เม็ด  มหาเจดีย์ชเวดากองมีทองคำโอบหุ้มอยู่น้ำหนักถึง 1,100 กิโลกรัม โดยช่างชาวพม่าจะใช้ทองคำแท้ตีเป็นแผ่นปิดองค์เจดีย์ไว้รอบ ว่ากันว่าทองคำที่ใช้ในการก่อสร้างและซ่อมแซมพระมหาเจดีย์แห่งนี้มากมายมหาศาลกว่าทองคำที่เก็บอยู่ในธนาคารชาติอังกฤษเสียอีก  รอบๆฐานพระมหาเจดีย์รายล้อมด้วยเจดีย์องค์เล็กๆ นับร้อยองค์ มีซุ้มประตูสี่ด้าน ยอดฉัตรองค์พระมหาเจดีย์ประกอบด้วยเพชรและพลอยมากมาย

ภายในองค์พระมหาเจดีย์ได้บรรจุเส้นพระเกศาธาตุของพระพุธเจ้าจำนวน 8 เส้น เป็นพระธาตุประจำปีเกิดปีมะเมีย และยังเป็น 1 ใน 5 มหาบูชาสถานสูงสุดของพม่า ซึ่งมีทั้งผู้คนชาวพม่า และชาวต่างชาติพากันสักการะทั้งกลางวันและกลางคืนอย่างไม่ขาดสาย ณ ที่แห่งนี้มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามอย่างน่าอัศจรรย์ ไม่ว่าจะเป็นความงามของวิหารทิศที่ทำเป็นศาลาโถงครอบด้วยหลังคาทรงปราสาทซ้อนเป็นชั้นๆ ที่เรียกว่า พยาธาตุ รายรอบองค์พระเจดีย์ ภายในประดิษฐานพระประธานสำหรับให้ประชาชนมากราบไหว้บูชา

คำสวดบูชาพระมหาเจดีย์ชเวดากอง

เป็นพระธาตุประจำคนเกิดปีมะเมีย (ม้า) มีคำสวดบูชาดังนี้

ชมพูทีเป  วะระฐาเน  สิงคุตตะเร  มะโนรัมเม  สัตตะระตะนัง  ปะฐะมัง  กะกุสันธัง  สุวัณณะทัณฑัง  ธาตุโย  ฐัสสะติ  ทุติยัง  โกนาคะมะนัง  ธัมมะกะระณัง  ธาตุโย  ฐัสสะติ  ตะติยัง  กัสสะปัง  พุทธะจีวะรัง  ธาตุโย  ฐัสสะติ   จะตุตถัง  โคตะมะ อัฎฐะเกศะ  ธาตุโย  ฐัสสะติ  ปัญจะมัง  อะริยะเมตตเตยโย  อะนาคะโต  อุตตะมัง  ธาตุโย อะหัง วันทามิทูระโต  ฯ

 

หลังจากนั้นนำท่านสักการะ พระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี (พระนอนตาหวาน) (Kyauk Htat Gyi Reclining Buddha) ซึ่งเป็นพระนอนที่มีความสวยงามที่สุดและดวงตาสวยที่สุดของประเทศพม่า  ที่บริเวณพระบาทมีภาพวาดรูปสรรพสิ่ง อันล้วนเป็นมิ่งมงคลสูงสุด  ประกอบด้วยลายลักษณธรรมจักรข้างละองค์ในบริเวณใจกลางฝ่าพระบาท และล้อมด้วยรูปอัฎจุตรสตกมงคล 108 ประการ พระบาทมีลักษณะซ้อนกันซึ่งแตกต่างกับศิลปะของไทย

กลางวัน

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (เป็ดปักกิ่ง+สลัดกุ้งมังกร)

บ่าย

 

ท่านนมัสการ เจดีย์โบตะทาวน์ (Botathaung Pagoda)  ซึ่งโบตะทาวน์ แปลว่า เจดีย์นายทหาร 1,000 นาย ได้สร้างเจดีย์โบตะทาวน์นี้และทรงนำพระเกศธาตุ ไว้ 1 เส้น ก่อนที่จะนำไปบรรจุที่เจดีย์ชเวดากองและเจดีย์สำคัญอื่นๆ เมื่อเดินเข้าไปในเจดีย์สามารถมองเห็นพระเกศาธาตุได้อย่างใกล้ชิด  นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่น่าชมภายในบริเวณรอบๆเจดีย์ คือ พระพุธรูปทองคำ ประดิษฐานในวิหารด้านขวามือ เป็นพระพุธรูปปางมารวิชัยที่มีลักษณะงดงามยิ่งนัก ตามประวัติว่าเคยประดิษฐานอยู่ในพระราชวังมัณฑะเลย์ ครั้งเมื่อพม่าตกเป็นอาณานิคมอังกฤษในปี พ.ศ. 2428 ถูกเคลื่อนย้ายไปยังพิพิธภัณฑ์กัลป์กัตตาในอินเดีย ทำให้รอดพ้นจากระเบิดของฝ่ายพันธมิตรที่ถล่มพระราชวังมัณฑะเลย์ ต่อมาในปี 2488 พระพุทธรูปองค์นี้ถูกจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์วิกตอเรียและแอลเบิร์ต  และด้านซ้ายมือจะเป็นรูปปั้น นัตโบโบยี หรือ เทพทันใจ ซึ่งชาวพม่ารวมถึงชาวไทยนิยมไปกราบไหว้บูชา ด้วยที่เชื่อว่าเมื่ออธิษฐานสิ่งใดแล้วจะสมปรารถนาทันใจ

 

วิธีการสักการะเทพทันใจ นำดอกไม้ ผลไม้ โดยเฉพาะมะพร้าวอ่อน กล้วย หรือผลไม้อื่นๆมาสักการะเทพทันใจ ซึ่งท่านจะชอบมาก (บริเวณวัดจะมีขาย) จากนั้นก็ให้ท่านนำเงินเงินบาท (แบงค์ 20, 50, 100 บาท) ไปใส่มือของเทพทันใจ 2 ใบ ไหว้ขอพรแล้วดึกกลับมา 1 ใบ เอามาเก็บไว้ จากนั้นก็เอาหน้าผากไปแตะกับนิ้วชี้ของเทพทันใจ ท่านก็จะสมตามความปราถนาที่ขอไว้

 

นำท่านขอพร เทพกระซิบ หรือ อะมาดอว์เมี๊ยะ ตามตำนานเล่าว่า เป็นธิดาของพญานาค ที่ศรัทธาในพุทธศาสนา จนสิ้นชีวิตไปกลายเป็นนัตที่ชาวพม่าเคารพกราบไหว้กัน โดยท่านสามารถกระซิบที่ข้างหูเบาๆ ห้ามให้คนอื่นได้ยิน และนำน้ำนมไปจ่อไว้ที่ปาก บูชาด้วยข้าวตอก ดอกไม้ และผลไม้

 

 จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดงาทัตจี (Nga Htat Gyi Pagoda) ซึ่งมีพระพุธรูปองค์ใหญ่ คือหลวงพ่องาทัตจี แปลว่า หลวงพ่อที่สูงเท่าตึก 5 ชั้น เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่แกะสลักจากหินอ่อน ทรงเครื่องแบบกษัตริย์ เครื่องทรงเป็นโลหะ ส่วนเครื่องประกอบด้านหลังจะเป็นไม้สักแกะสลักทั้งหมด และสลักป็นลวดลายต่างๆ จำลองแบบมาจากพระพุทธรูปทรงเครื่องสมัยยะตะนะโบง (สมัยมัณฑเลย์)

 

 

 

นำทุกท่านเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองที่ ตลาดสก๊อตมาร์เก็ต (Bogyoke Aung San Market)  ซึ่งสร้างเมื่อครั้งพม่ายังคงเป็นอาณานิคมของประเทศอังกฤษ ให้ท่านได้เลือกชมและเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกพื้นเมืองมากมายในราคาถูก เช่น ไม้แกะสลัก พระพุทธรูปไม้หอมแกะสลัก แป้งทานาคา ผ้าปักพื้นเมือง เครื่องเงิน ไข่มุก และหยกพม่า(ตลาดสก๊อตปิดทุกวันจันทร์และเทศกาลวันสงกรานต์)

 

นำท่านชม วัดพระหินอ่อน หรือ วัดเจ้าดอจี  (Kyauk Taw Gyi Pagoda) ประดิษฐาน "พระหินอ่อน" ใหญ่สุดในพม่า ที่ชาวพม่าเรียก "หยก" เป็นพระที่สลักด้วยหินอ่อนก้อนเดียวทั้งองค์และมีขนาดใหญ่ที่สุดในพม่า มีหนัก 60 ตัน สูง 37 ฟุต อยู่ในห้องกระจกแก้วเพื่อเป้นการควบคุมอุณหภูมิ ไว้เพื่อป้องกันการเสียหายของหินอ่อนจากการเปลี่ยนแปลงของอากาศ นมัสการรอยพระพุทธบาทจำลองที่นำหิน ที่เหลือจากการแกะสลักพระพุทธรูป 

 

สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางสู่ สนามบินมิงกาลาดง เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ

21.00 น.

ออกเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบินนกแอร์ เที่ยวบินที่ DD4239 (ไม่มีอาหารบนเครื่องและไม่มีนำหนักกระเป๋าโหลดใต้เครื่อง)

22.55 น.

คณะเดินทางถึง ท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมด้วยความประทับใจ