ซาปา ฟานซีปัน ฮานอย
เดินทางเดือน ต.ค. 68 - มี.ค. 69
โหลดโปรแกรมทัวร์ซาปาข้างล่างนี้
ฮานอย-ซาปา- ฟานซีปัน 4 วัน 3 คืน
ซุปตาร์... ซาปา สัมผัสเมืองแห่งสายหมอกเวียดนามเหนือ
กำหนดการเดินทาง ตุลาคม 2568 - มีนาคม 2569
ดื่มด่ำกับอากาศบริสุทธิ์ ณ เมืองซาปา
เวียดนามเหนือ ที่เที่ยวฟานซิปัน
ขึ้นกระเช้าไฟฟ้าสู่ยอดเขาฟานซิปัน
บินดี เที่ยวสุดคุ้ม
รีวิวซาปา ที่เที่ยวซาปา ที่เที่ยววันหยุด
« พิชิต ยอดเขาฟาซิปัน หลังคาแห่งอินโดจีน
« ชมวิถีชีวิตของชาวเผ่าม้งดำ หมู่บ้านกั๊ต กั๊ต
« เช็คอิน MOANA CAFÉ
« เก็บภาพแหล่งท่องเที่ยวใหม่ของฮานอย Mega Grand World
วันแรก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ – ท่าอากาศยานนานาชาติโหน่ยบ่าย (ฮานอย)
เมืองซาปา – โบสถ์หินซาปา – ตลาดกลางคืนซาปา
09.00 น. สมาชิกทุกท่านพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 10 เคาน์เตอร์ W ก่อนนำท่านไปเช็คอินที่เคาน์เตอร์ เวียดนามแอร์ไลน์ (VN) โดยมีหัวหน้าทัวร์และเจ้าหน้าที่ส่งทัวร์ คอยต้อนรับและแจกเอกสารการเดินทาง จากนั้นนำท่านเช็คอินและโหลดสัมภาระ
11.55 น. ออกเดินทางสู่ กรุงฮานอย (ประเทศเวียดนาม) โดยสายการบิน เวียดนามแอร์ไลน์ (VN) เที่ยวบินที่ VN610 (มีบริการอาหารบนเครื่อง)
13.50 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติโหน่ยบ่าย (กรุงฮานอย) ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรเรียบร้อยแล้วนำท่านรับสัมภาระ (เวลาท้องถิ่นประเทศเวียดนามเท่ากับเวลาประเทศไทย)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองซาปา (SAPA) เมืองเล็ก ๆ กลางหุบเขาในจังหวัดลาวไก ในอดีตเป็นเมืองตากอากาศยอดนิยมของชาวยุโรป เนื่องจากเคยตกอยู่ในการยึดครองของประเทศฝรั่งเศส สถาปัตยกรรมของบ้านเรือนและตึกต่าง ๆ รวมถึงการวางผังเมืองจึงมีลักษณะเป็นแบบฝรั่งเศสที่ถูกรายล้อมไปด้วยหุบเขาน้อยใหญ่และธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง 30 นาที)
นำท่านชมภายนอก โบสถ์หินซาปา (Sapa Stone Church) สิ่งปลูกสร้างที่สร้างขึ้นจากสถาปัตยกรรมแบบยุโรปในสมัยที่ฝรั่งเศสปกครองเวียดนาม ซึ่งเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กของเมืองซาปาที่ต้องมาเช็คอินกับโบสถ์คริสต์แห่งนี้ ซึ่งโบสถ์ทำด้วยหิน สันนิษฐานว่าโบสถ์แห่งนี้สร้างโดยชาวฝรั่งเศส และยังเป็นสถานที่ประกอบพิธีมิสซาของชาวฝรั่งเศสในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์
จากนั้นอิสระให้ท่านเดินเที่ยวชม ตลาดกลางคืนซาปา (Sapa Night Market) เป็นตลาดที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซาปา สินค้าที่มาวางขายส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าที่ผลิตขึ้นมาจากชาวเขาท้องถิ่นที่อาศัยอยู่ที่ซาปา ส่วนใหญ่จะเป็นผ้าปัก สร้อย กำไล และเครื่องประดับของคนพื้นเมือง ผัก ผลไม้ และอาหารพื้นเมืองมากมาย นอกจากนั้นยังมีร้านอาหารสไตล์ฝรั่งเศสเก๋ ๆ ตกแต่งร้านสวยงาม ให้ท่านได้เลือกนั่งได้ตามใจชอบ
เย็น บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
ที่พัก โรงแรม Passion, Bora ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
วันที่สอง เมืองซาปา - สถานีรถไฟ SUN PLAZA – นั่งรถไฟวินเทจสู่สถานีกระเช้า
นั่งกระเช้าไฟฟ้าขึ้นสู่ยอดเขาฟานซิปัน - โมอาน่าคาเฟ่ - หมู่บ้านกั๊ต กั๊ต
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านสู่ สถานีรถไฟ (Sun Plaza Sapa Station) จากนั้นนำท่าน นั่งรถไฟวินเทจสู่สถานีกระเช้า Hoang Lien ท่านสามารถถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ความสวยงามของซาปาได้ระหว่างทาง
จากนั้นนำท่าน นั่งกระเช้าไฟฟ้า (Cable Car) จากสถานีกระเช้า Hoang Lien สู่สถานีกระเช้าฟานซิปัน กระเช้าลอยฟ้าติดกระจกสามารถมองเห็นวิวเมืองซาปาและความสวยงามของธรรมชาติได้ 360 องศา ชมความงามของป่าไม้ แม่น้ำ ลำธารสายน้อยใหญ่ วิวของนาขั้นบันไดที่สวยงาม เป็นที่ขึ้นชื่อของเมืองซาปาสลับไปกับหมู่บ้านของชาวเขา รวมถึงภูเขาและม่านหมอกที่เรียงตัวซ้อนกันเป็นฉากหลังที่สวยงาม ขณะที่กำลังเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามกระเช้าจะเคลื่อนเข้าสู่ ยอดเขาฟานซิปัน ที่ได้รับฉายาว่า หลังคาแห่งอินโดจีน โดยอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 3,143 กิโลเมตร
จากจุดกระเช้าไฟฟ้ามี 2 เส้นทางในการขึ้นไปถึงยอดเขา นำท่านเดินขึ้นบันไดต่อไปประมาณ 600 ขั้นเพื่อพิชิตยอดเขาฟานซิปัน หรือ ซื้อตั๋วขึ้นรถรางโมโนเรล (ไม่รวมในทัวร์) เพื่อขึ้นสู่ยอดเขาฟานซิปัน ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับ “สัญลักษณ์สแตนเลส 3 เหลี่ยม” ที่แสดงว่าท่านได้มายืนอยู่บนจุดสูงสุดของ ยอดเขาฟานซิปัน (Fansipan) พร้อมสัมผัสกับเมฆหมอก และวิวทิวทัศน์ที่สวยงามบนยอดเขา
นำท่านชมทัศนียภาพด้านบนพร้อมถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ และชมแนวเทือกเขาในเขตชายแดนยูนนานของประเทศจีน ระหว่างที่ท่านอยู่ด้านนนั้นหากสภาพอากาศไม่มีเมฆปกคลุมมาก ท่านสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของยอดเขาฮัมรองได้อีกด้วย
***หมายเหตุ*** เนื่องจากกระเช้าฟานซิปัน (Fansipan) ปิดปรับปรุงชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน – 15 ธันวาคม 2568 ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนโปรแกรมจากขึ้นเขาฟานซิปัน เป็น สะพานแก้วมังกรเมฆแทน โดยคืนค่าใช้จ่าย 500 บาท/ท่าน
นำท่านชม สะพานแก้วมังกรเมฆ (Glass Bridge Rong May) เป็นสะพานแก้วที่แรกในเวียดนาม เหมาะสำหรับคนที่ชอบท้าทายความสูง ซึ่งความสูงของสะพานนี้สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2,000 เมตร สามารถรับน้ำหนักได้ 3,000 คน ในเวลาเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตามเพื่อความปลอดภัยอนุญาตให้อยู่ได้สูงสุดไม่เกิน 500 คน เท่านั้นในเวลาเดียวกัน บนสะพานนี้ท่านจะได้ชมทัศนียภาพของเส้นทาง O Quy Ho Pass และเทือกเขา Hoang Lien Son จากมุมสูงและมียังลิฟต์แก้วกลางแจ้งสูงประมาณ 300 เมตรด้วย
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (เมนู บุฟเฟ่ต์นานาชาติ)
บ่าย นำท่านเช็คอินคาเฟ่สุดชิค โมอาน่าคาเฟ่ (Moana Café) รวมจุดถ่ายรูปสุดสวยจากหลากหลายสถานที่ไว้ให้ท่านผ่อนคลายกับบรรยากาศสุดฟิน และทางร้านยังมีจำหน่ายเครื่องดื่มพร้อมให้ท่านดื่มด่ำไปกับความเย็นจากสายหมอกอีกด้วย (ไม่รวมค่าเครื่องดื่ม)
จากนั้นนำท่านชม หมู่บ้านกั๊ต กั๊ต (Cat Cat Village) เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ในเมืองซาปา ซึ่งอยู่ในระดับความสูงกว่าน้ำทะเล 1,650 เมตร และอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 3 กิโลเมตร คำว่า กั๊ตกั๊ต มีต้นกำเนิดมาจากชื่อที่ใช้เรียกรถ 4 Wheel ของชาวฝรั่งเศสที่ได้ขับเข้ามายังพื้นที่แห่งนี้เพื่อค้นหาแหล่งพลังงานทางธรรมชาติ ก่อนที่ชาวม้งดำจะอพยพมาจากลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียง ประเทศจีน เพื่อมาตั้งรกรากทำมาหากินจนเกิดเป็นหมู่บ้าน และกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในเวลาต่อมา ปัจจุบันกั๊ตกั๊ตเป็นหมู่บ้านเก่าแก่ของชาวเผ่าม้งดำที่นิยมแต่งกายโทนสีน้ำเงินเข้มหรือดำ เป็นหมู่บ้านที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของนาขั้นบันไดที่สวยงาม รอให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชม และยังมีสินค้าพื้นเมืองและสินค้าต่าง ๆ มากมาย ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อ รวมถึงร้านเช่าชุดพื้นเมืองราคาไม่แพงให้ท่านได้ใส่เพื่อบันทึกความทรงจำกับหมู่บ้านและธรรมชาติอันสวยงาม
เย็น บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคารพื้นเมือง (เมนู หม้อไฟแซลมอน)
ที่พัก โรงแรม Passion, Bora ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
วันที่สาม เมืองซาปา - กรุงฮานอย – ร้านเยื่อไผ่ – ทะเลสาบคืนดาบ – สะพานแสงอาทิตย์
วัดหง็อกเซิน - ช้อปปิ้งถนน 36 สาย
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางกลับสู่ กรุงฮานอย (HA NOI) ตั้งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศเวียดนาม คำว่า “ฮานอย” หมายถึงตอนต้นของแม่น้ำ ตั้งอยู่ตอนต้นของลุ่มแม่น้ำแดง ในสมัยนั้นกษัตริย์ราชวงศ์ลี้สถาปนาขึ้นเป็นเมืองหลวง โดยใช้ชื่อว่า ทังล็อง แปลว่า มังกรเหิน ต่อมากษัตริย์ในราชวงศ์เหงียนได้ย้ายเมือหลวงไปอยู่เมืองเว้ เมื่อตกเป็นส่วนหนึ่งของอินโดจีนและฝรั่งเศส ฮานอยจึงกลับมาเป็นเมืองหลวงอย่างเป็นทางการอีกครั้งหลังจากได้รับเอกราชในปี พ.ศ. 2489 ดินแดนเวียดนามแยกออกเป็นสองประเทศ โดยฮานอยเป็นเมืองหลวงของเวียดนามเหนือ เมื่อรวมประเทศใน พ.ศ.2519 จึงเป็นเมืองหลวงหนึ่งเดียวของเวียดนามในปัจจุบัน (ใช้เวลาเดินทางเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง)
ระหว่างทางนำท่านชมสินค้า ร้านเยื่อไผ่ จำหน่ายสินค้าต่าง ๆ ที่ผลิตขึ้นมาจากเยื่อไม้ไผ่ เช่น ผ้าเช็ดต่าง ๆ ผ้าเช็ดพื้น ผ้าดูดฝุ่น ผ้าพันคอ ชุดคลุมไหล่ ชุดสเลค และอื่น ๆ อีกมากมาย รวมไปถึง สินค้าต่างชนิดต่าง ๆ ทั้งของกินของใช้ เสื้อผ้าพื้นเมือง ไปจนถึงกาแฟที่มีชื่อเสียง
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบคืนดาบ (Hoan Kiem Lake) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองฮานอย ตามตำนานเล่าขานกันมาว่าในสมัยที่เวียดนามทำสงครามกับประเทศจีน กษัตริย์แห่งเวียดนามทำการสู้รบเป็นเวลานานแต่ไม่สามารถรบชนะฝ่ายจีนได้ จนเกิดความท้อแท้ วันหนึ่งได้ล่องเรือเข้ามา ณ ทะเลสาบแห่งนี้ ได้เจอกับเต่าตัวหนึ่งซึ่งที่ปากนั้นได้คาบดาบวิเศษอยู่และได้นำดาบนั้นมาให้กับกษัตริย์เวียดนามเพื่อใช้ในการทำสงคราม เมื่อกลับไปสู้รบกับประเทศจีนอีกครั้ง จนมีชัยชนะกลับมาทำให้บ้านเมืองสงบสุข และเมื่อเสร็จสิ้นสงครามแล้วพระองค์จึงได้นำดาบกลับมาคืน ณ ทะเลสาบคืนดาบแห่งนี้
จากนั้นให้ท่านถ่ายภาพ สะพานแสงอาทิตย์ (The Huc Bridge) สะพานสีแดงสดท่ามกลางทะเลสาบคืนดาบ เชื่อมระหว่างริมฝั่งกับเกาะเนินหยก สะพานแห่งนี้ถือเป็นเอกลักษณ์อีกแห่งหนึ่งของกรุงฮานอย หากยืนอยู่บนสะพานท่านสามารถมองเห็น ศาลเจ้าเนินหยก ตั้งอยู่บนเกาะ ซึ่งเป็น
เกาะเล็ก ๆ ในทะเลสาบคืนดาบ ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 โดยสถาปัตยกรรมและศิลปะการตกแต่งได้รับอิทธิพลมาจากจีน สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ เฉิน ฮัง โด๋ว ผู้นำการต่อต้านราชวงศ์หยวนของจีนในศตวรรษที่ 13 ภายในเป็นวิหารชั้นเดียว มีแท่นบูชาเทพเจ้า รวมถึงฆ้องและระฆังโบราณ หากมองออกไปจากเกาะเนินหยกจะเห็นเจดีย์โบราณโผล่ขึ้นพ้นน้ำมีชื่อเรียกว่าท้องถิ่นว่า ทาพรัว ซึ่งหมายถึง หอคอยเต่า ซึ่งในปัจจุบันในช่วงเปลี่ยนฤดูกาลยังสามารถเห็นเต่าขนาดใหญ่อยู่ในทะเลสาบแห่งนี้
นำท่านเดินทางสู่ วัดหง๊อกเซิน แห่งทะเลสาบคืนดาบ (Temple of the Jade Mountain) เป็นวัดโบราณเก่าแก่ และเป็นสัญลักษณ์ของความเชื่อในเรื่องของอำนาจและยศถาบรรดาศักดิ์ ภายในประกอบด้วยศาลเจ้าโบราณ และเต่าสต๊าฟขนาดใหญ่ ซึ่งเชื่อกันว่าเต่าตัวนี้คือ เต่าศักดิ์สิทธิ์ 1 ใน 2 ตัวที่อาศัยอยู่ในทะเลสาบแห่งนี้มาเป็นเวลาช้านาน
ให้ท่านอิสระ ช้อปปิ้งถนน 36 สาย (Old Quarter) มีชื่อเรียกพื้นเมืองว่า 36 เฝอเฟือง ในอดีตเป็นถนนที่มีชื่อเสียงในเรื่องของงานหัตถกรรมมายาวนานกว่า 600 ปี ในปัจจุบันถนนแห่งนี้มีสินค้ามากมาย เป็นแหล่งขายของที่ระลึกและสินค้าพื้นเมืองที่ใหญ่ที่สุดใจกลางกรุงฮานอย ท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าได้อย่างจุใจ เช่น เสื้อผ้า เครื่องเขิน งานฝีมือที่ทำจากไม้ เรือสำเภาไม้จำลอง ของที่ระลึกจากเวียดนามที่ทำขึ้นมาจากฝีมือคนเวียดนามอย่างแท้จริง เป็นต้น
เย็น บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
ที่พัก โรงแรม WESTERN SKYLINE HOTEL ระดับ 4 ดาวมาตรฐาน หรือเทียบเท่า
วันที่สี่ เมก้าแกรนด์เวิลด์ฮานอย – ท่าอากาศยานนานาชาติโหน่ยบ่าย (กรุงฮานอย)
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นําท่านเดินทางสู่สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของกรุงฮานอย เมก้าแกรนด์เวิลด์ ฮานอย (Mega Grand World Hanoi) กําลังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวต่างชาติและชาวเวียดนามเอง ตั้งอยู่ใจกลางของภาคเหนือ และที่นี่ยังเป็นแหล่งรวมความบันเทิงที่ทันสมัยที่สุด เพียบพร้อมไปด้วยร้าน ช้อปปิ้งมากมาย จุดหมายปลายทางสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสวัฒนธรรม ศิลปะและสถาปัตยกรรมร่วมสมัยของเอเชียยุโรป ที่ถ่ายทอดผ่านทางอาคารบ้านเรือนและการตกแต่งด้วยกลิ่นไอความเป็นนอิตาเลียน ท่านจะได้เพลิดเพลินไปกับร้านค้ามากมายให้เลือกซื้อของฝากต่าง ๆ และเต็มอิ่มไปด้วยมุมถ่ายรูปมากมาย ที่สามารถใช้เวลาเที่ยวได้ตลอดทั้งวันไม่มีเบื่อ
สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติโหน่ยบ่าย (กรุงฮานอย) เพื่อเดินทางกลับสู่ ประเทศไทย
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง (เมนู เฝอเวียดนาม)
16.05 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน เวียดนามแอร์ไลน์ (VN) เที่ยวบินที่ VN619 (มีบริการอาหารบนเครื่อง)
18.05 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ