Top

ทัวร์เนปาล มนต์เสน่ห์หิมาลัย

ชื่อทัวร์ : ทัวร์เนปาล มนต์เสน่ห์หิมาลัย
สายการบิน : Thai Lion Air
ระยะเวลา : 4 วัน 3 คืน
ราคาเริ่มต้น : 21,990 บาท
วันที่เดินทาง

09 – 12 ธันวาคม 2566
30 ธ.ค. 66 – 02 ม.ค. 67
13 – 16 มกราคม 2567
20 – 23 มกราคม 2567
27 – 30 มกราคม 2567
03 – 06 กุมภาพันธ์ 2567
10 – 13 กุมภาพันธ์ 2567
17 – 20 กุมภาพันธ์ 2567
09 – 12 มีนาคม 2567
16 – 19 มีนาคม 2567
23 – 26 มีนาคม 2567

รายละเอียดทัวร์

มัสเต เนปาล..มนต์เสน่ห์หิมาลัย 4 วัน

ทัวร์เนปาล เที่ยวเนปาล ไปเนปาล

เนปาล กาฐมาณฑุ ภักตะปูร์ นากาก็อต ปะฏัน
 เนปาลดินแดนแห่งความศรัทธา ชมวิว "เทือกเขาหิมาลัย" ยามพระอาทิตย์ขึ้นที่ "นากาก็อต" สวิตเซอร์แลนด์แห่งเนปาล EyE”ดวงตาเห็นธรรม..วัด..เจดีย์..สถูป
สัมผัสอารยธรรมโบราณl ศิลปะเก่าแก่ 2000 กว่าปี l กาฐมาณฑุ…ปาทัน...โภครา
ตื่นตา..ตื่นใจกับกิจกรรมที่ท้าทาย “Paragliding” Or “Helicopters” ชมวิวยอดเขาสูง
ช้อปปิ้งของพื้นเมืองแปลกตาย่านทาเมล ... ชิมอาหารท้องถิ่นต้นตำรับ
เดินทางโดยสายการบินไทยไลออนแอร์

 

Day1    สนามบินดอนเมือง - สนามบินตริภูวัน - เมืองนากาก็อต 

12.00         นัดหมายพร้อมกันที่ สนามบินดอนเมืองประเทศไทยโปรดสังเกตุป้าย เลทส์โกกรุ๊ป พบเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกเช็คอินให้แก่ท่าน

15.00         ออกเดินทางสู่ สนามบินตริภูวันประเทศเนปาล โดยสายการบิน Thai Lion Airเที่ยวบินที่ SL220ไม่มีบริการอาหารบนเครื่อง

17.20         เดินทางถึง สนามบินตริภูวันประเทศเนปาล(เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง 15 นาที) ผ่านการตรวจคนเข้าเมืองรับสัมภาระผ่านจุดคัดกรองตามระเบียบของสนามบินหลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองนากาก๊อต หรือสวิตเซอร์แลนด์แห่งเนปาล ตั้งอยู่บนเขามีความสูงประมาณ 2,195 เมตรจากระดับน้ำทะเล ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุ ไปทางทิศตะวันออกประมาณ 32 กิโลเมตร นากาก๊อตถือว่าเป็นเมืองที่สามารถชมวิวเทือกเขาหิมาลัย หรือยอดเขาเอเวอเรสต์ได้แบบพาโนราม่า เป็นเมืองที่สามารถชมพระอาทิตย์ตก และพระอาทิตย์ขึ้นได้อย่างสวยงาม

ค่ำ         บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

พักที่      Hotel Niva Niwa and Resort, Nagarkotหรือระดับเทียบเท่า

Day2    ชมพระอาทิตย์ขึ้น - เมืองภักตะปูร์- จัตุรัสภักตะปูร์ ดูร์บาร์ -ประตูทองคำ - พระราชวัง 55 พระแกล - เมืองปะฏัน- จัตุรัสปะฏัน ดูร์บาร์ -พระราชวังปะฏัน- เมืองกาฐมาณฑุ 

          พาทุกท่าน ชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น ในยามเช้า ทุกท่านสามารถเห็นวิวเทือกเขาหิมาลัย หรือยอดเขาเอเวอเรสต์ ซึ่งเป็นยอดเขาที่ต้องยอมรับว่าสูงที่สุดในโลก โดยมีความสูงราวๆ8,848 เมตร และยอดเขาแห่งนี้ยังเปรียบเสมือนเป็น มงกุฏของโลก อีกด้วยนอกจากนี้ทุกท่านจะได้สัมผัสบรรยากาศความหนาว และความสดชื่นของธรรมชาติ พร้อมภาพภูเขาข้างหน้าที่ทุกท่านจะได้เห็นนั้นจะค่อยๆเริ่มเปลี่ยนเป็นสีทองเปล่งประกายตลอดจนพระอาทิตย์ขึ้น ซึ่งถือได้ว่าเป็นภาพที่หายาก และไม่สามารถหาได้ง่ายๆได้ในทั่วไป(ทุกท่านจะสามารถเห็นเทือกเขาหิมาลัยได้ตลอดแนวตั้งแต่ฝั่งตะวันตกไปจนถึงตะวันออกได้นั้น ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในวันนั้นๆเป็นที่สำคัญ)

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม 

นำท่านเดินทางไปยัง เมืองภักตะปุร์ หรือรู้จักกันในนาม “เมืองแห่งผู้มีจิตศรัทธา” ตั้งอยู่ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุ ไปทางทิศตะวันออกประมาณ 12 กิโลเมตร เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ในยุคกลาง มีร่องรอยความเจริญรุ่งเรืองทางด้านศิลปะและวัฒนธรรม โดยเสน่ห์ความน่าหลงใหลของเมืองนี้อยู่ที่วิถีชีวิตของชาวเมืองที่สามารถอยู่รวมกับอาณาจักรโบราณได้อย่างกลมกลืน ปัจจุบันถือว่าเป็นเมืองแห่งวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียง ได้รับความนิยมอย่างมากจากนักท่องเที่ยว ได้รับขนานนามว่า “เมืองแห่งอัญมณีทางวัฒนธรรมของเนปาล” เมืองภักตะปุร์ถือว่าเป็นเมืองเล็กที่มีชื่อเสียงในเรื่องของงานแกะสลักไม้ และการทำภาทคาวันโตปี หรือหมวกแก๊ป นอกจากนี้แล้วยังเป็น 1 ใน 7 กลุ่ม ของมรดกทางวัฒนธรรมในเขตหุบเขากาฐมาณฑุ ซึ่งองค์การยูเนสโกได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก ในปี 1979

พาทุกท่านเยี่ยมชม จัตุรัสภักตะปุร์ ดูร์บาร์ที่ตั้งของหมู่พระราชวัง วิหารและสิ่งก่อสร้างต่างๆในศิลปะสกุลช่างเนวารีแท้ นำท่านชม ประตูทองคำ เป็นทางเข้านำไปสู่ลานของพระราชวังนามว่า “พระราชวัง 55 หน้าต่าง หรือ Palace of 55 Windows”สร้างโดยกษัตริย์รานจิต มัลละ เป็นประตูที่มีการแกะสลักงดงามและสมบูรณ์ที่สุดในโลก มีการประดับตกแต่งลวดลายของเหล่าเทพและอสูรต่างๆไว้อย่างประณีต

          จากนั้นเยี่ยมชม พระราชวัง 55 พระแกลสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2243 เนื่องจากภักตะปุร์เคยเป็นเหมืองหลวงที่เก่าแก่ และมีความรุ่งเรืองทางการค้า จึงทำให้มีพระราชวังที่งดงามที่สุดของสถาปัตยกรรมแบบเนปาลในสมัยศตวรรษที่ 18 เช่น ที่ระเบียงของหน้าต่างทั้ง 55 บาน ซึ่งอยู่บนกำแพงอิฐ ได้รับการออกแบบและมีการจัดวางอย่างสวยงาม ระเบียงนี้จัดได้ว่าเป็นผลงานชิ้นสำคัญในด้านการแกะสลักไม้

นอกจากนี้ทุกท่านสามารถชมวัดหินที่มีชื่อว่า พัตสะละ เทวีตั้งอยู่ที่จัตุรัสดูร์บาร์ด้วยเช่นกัน เป็นวัดที่มีงานแกะสลักมากมาย เป็นตัวอย่างของสถาปัตยกรรมแบบศิขะระ บนระเบียงวัดมีระฆังทองสัมฤทธิ์แขวนอยู่ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “ระฆังหมาเห่า” ในสมัยก่อนมีการตีระฆังมหึมาใบนี้เพื่อบอกเวลานับจากที่ได้นำมาตั้งไว้ในปีพ.ศ. 2280

อิสระทุกท่านชมผลงานทางสถาปัตยกรรมจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน อาทิ ประตูสิงห์ รูปสลักของกษัตริย์ ภูปตินทระ มัลละ หอแสดงภาพ วัดพัตสะละ โดยเฉพาะรูปสลักอันวิจิตรของกษัตริย์ภูปตินทระ มัลละกำลังอยู่นในท่าแสดงความเคารพซึ่งตั้งอยู่บนเสาหินที่หันหน้าเข้าสู่ตัวปราสาทนั้นได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นอนุสาวรีย์แห่งมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2522          

เที่ยง     บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร เมนูพิเศษ!! อาหารไทย

นำท่านเดินทางสู่ เมืองปะฏันหรือเมืองที่ได้รับขนานนามว่า “เป็นเมืองเก่ามรดกโลก” ด้วยประติมากรรมที่ประกอบไปด้วยพระราชวังน้อยใหญ่ภายในเมืองปะฏัน หรือเมืองลิลิตปูร์ โดยเมืองแห่งนี้นั้นเป็นเมืองโบราณที่ตั้งอยู่เหนือแม่น้ำพัคมาตี อีกทั้งเมืองแห่งนี้นั้นยังถือว่าเป็นเมืองคู่แฝดของเมืองกาฐมาณฑุอีกด้วย มีชื่อเสียงทางด้านศิลปะ เป็นศูนย์กลางกลางงานหัตถศิลป์ของชาวทิเบต และยังมีชื่อเสียงในเรื่องของพระพุทธรูป นับเป็นนครโบราณที่ยังมีชีวิต ภายในเมืองเต็มไปด้วยวัดทางศาสนาฮินดูและสิ่งปลูกสร้างในพุทธศาสนา อันเนื่องมาจากความหลากหลายของวัฒนธรรมในยุคกลางที่ทำให้ทั้งศาสนาฮินดูและศาสนาพุทธเฟื่องฟูในแถบนี้ 

นำทุกท่านไปยัง จัตุรัสปะฏัน ดูร์บาร์ตั้งอยู่ตรงใจกลางเมือง จัตุรัสแห่งนี้เต็มไปด้วยพระราชวังโบราณ วัด และโบสถ์ที่เก่าแก่มีชื่อเสียงในด้านการแกะสลักที่ประณีตงดงาม นอกจากนี้อาคารโดยรอบจัตุรัสเป็นบ้านเรือนประชาชนที่แกะสลักบานประตูและหน้าต่างอย่างสวยงาม

จากนั้นนำท่านไปยัง พระราชวังปะฏัน ถือได้ว่าเป็นต้นแบบของงานสถาปัตยกรรมแบบศิขะระของเนปาล ตั้งอยู่ในบริเวณจัตุรัสปะฏัน ดูร์บาร์ในเขตพระราชวังและจัตุรัสปะฏัน ดูร์บาร์ประกอบไปด้วย“ฉอก” หรือ “ลาน” 3 แห่งสำคัญ ได้แก่ มุลกลางฉอก สุนทรีฉอก และเกศาร์ นารายัณฉอก บริเวณตรงกลางของสุนทรี ฉอกมีห้องอาบน้ำหลวงที่เรียกว่า“ตุศาหิตี”ซึ่งนับว่าเป็นสถาปัตยกรรมหินชิ้นสำคัญด้วย จัตุรัสนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกเป็นมรดกโลกอีกแห่งหนึ่ง

นำท่านไปยัง เมืองกาฐมัณฑุ เป็นเมืองหลวงของประเทศเนปาล และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเนปาลอีกด้วย เมืองกาฐมัณฑุเป็นเมืองที่ถือว่าหากใครที่มาเยือนเนปาลแล้วต้องมาเยือนนี้ด้วย เพราะที่นี่นั้นเป็นจุดศูนย์รวมทั้งการค้า การเดินทาง วัฒนธรรม หรือสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกมากมาย อาทิเช่น สวยัมภูวนาถ หรือวัดลิง จัตุรัสกาฐมาณฑุดูร์บาร์ ย่านถนนทาเมล หรืออื่นๆ จากนั้นนำทุกท่านเดินทางไปยังที่พักเพื่อทำการเช็คอิน

ค่ำ         บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

พักที่      HotelThamel Park, Kathmanduหรือระดับเทียบเท่า

Day3    เมืองกาฐมาณฑุ - ปศุปฏินารถ - มหาเจดีย์โพธิ์นาถ - จัตุรัสกาฐมาณฑุดูร์บาร์ - นมัสการเทพธิดากุมารีสวยัมภูวนาถ หรือวัดลิง 

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

หลังจากที่ทุกท่านรับประทานอาหารกลางวันเรียบร้อยแล้วนั้นพาทุกท่านชม ปศุปฏินารถ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำพัคมาตี ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุไปทางทิศตะวันออก ประมาณ 5 กิโลเมตร ถูกสร้างขึ้นในสมัยของกษัตริย์แห่งราชวงศ์มัลละ ซึ่งในการสร้างวัดครั้งนี้ก็เพื่อถวายแด่องค์ปศุปฏินาถภาคอวตารหนึ่งของพระศิวะ และยังมีความเชื่ออีกว่าแม่น้ำพัคมาตีนั้นมีความศักดิ์สิทธิ์เปรียบเสมือนแม่น้ำคงคาแห่งเมืองพาราณสี ประเทศอินเดีย เนื่องจากการไหลของแม่น้ำสายนี้นั้นจะไหลไปรวมกับแม่น้ำคงคา วัดนี้มีหลังคาที่ทำด้วยทองซ้อนกัน 2 ชั้น และประตูเงิน ถือได้ว่าวัดแห่งนี้นั้นเป็นวัดที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดวัดหนึ่งในศาสนาฮินดูของเนปาล

หลังจากนั้นพาทุกท่านเยี่ยมชม มหาเจดีย์โพธิ์นาถ เจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเนปาลบนเจดีย์มีดวงตาเห็นธรรมของพระพุทธเจ้าทั้งสี่ทิศ เป็นสถูปที่ตั้งอยู่ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุไปทางทิศตะวันออกประมาณ 8 กิโลเมตร วัดแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก ให้เป็นมรดกโลกในปี พ.ศ. 2522 บริเวณรอบๆวัดนั้นถือว่าเป็นแหล่งชุมชนของชาวพุทธมหายานที่อพยพมาจากทิเบต เมื่อปีพ.ศ. 2502 เพราะเหตุนี้จึงทำให้เห็นพระทิเบตและคนทั่วไปยืนแกว่งล้อมนต์พร้อมกับสวดมนต์อยู่ทั่วไป 

เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร เมนูอาหารจีน

จากนั้นเดินทางต่อไปยัง จัตุรัสกาฐมาณฑุดูร์บาร์ ภายในสถานที่แห่งนี้ประกอบไปด้วยวัดและปราสาทที่เก่าแก่ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองของศาสนาและวัฒนธรรมของชาวเนปาล เนื่องจากเป็นสถานที่ราชาภิเษกขึ้นครองราชย์ อีกทั้งยังมีสถานที่ที่น่าสนใจมากมาย ได้แก่ พระราชวังกาฐมัณฑุ วัดกุมารี กาฐมาณฑป หนุมานโธกา วัดตะเลชุและจัตุรัสแห่งนี้ยังได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี พ.ศ. 2522 อีกด้วย นำท่านนมัสการเทพธิดากุมารี ณ วังกุมารีที่ประทับของเทพธิดากุมารี ตัวแทนแห่งเทวีพรหมจารีย์ที่ถือกำเนิดในโลกมนุษย์ มีหน้าที่ทำพิธีบูชาเทพธิดาแห่งเตาไฟหรือเทพธิดาแห่งการดำรงชีพ ซึ่งถือเป็นเทพธิดายุคโบราณของศาสนาฮินดู จากนั้นนำท่านไปยังกาฐมาณฑป ที่สร้างขึ้นในตอนต้นของศตวรรษที่ 12 ที่เชื่อว่าสร้างขึ้นจากต้นไม้เพียงต้นเดียว และเป็นที่มาของชื่อเมืองกาฐมาณฑุ พาท่านชมวังหนุมานโธกา ที่ด้านหน้ามีรูปปั้นหนุมานตั้งบนแท่นสูงคอยรักษาประตูทางเข้าของพระราชวัง และสัการะเทวีตะเลชุภาวณีเทพประจำองค์พระมหากษัตริย์ ที่วัดตะเลชุ

นำท่านเดินทางไปยัง สวยัมภูวนาถ หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ วัดลิง เป็นเจดีย์ของชาวพุทธ ที่ถือว่ายิ่งใหญ่แห่งหนึ่งของโลก เป็นสถานที่ที่เก่าแก่มีอายุนานถึง 2,000 ปี ถูกสร้างขึ้นในสมัยของพระเจ้ามานะเทวะ เมื่อปี พ.ศ. 963 ตั้งอยู่บนยอดเขาห่างจากตัวเมืองกาฐมาณฑุไปทางตะวันตกประมาณ 3 กิโลเมตร สถานที่แห่งนี้มีสถาปัตยกรรม การผสมผสานระหว่างศาสนาฮินดูและศาสนาพุทธ เป็นเจดีย์ที่ยิ่งใหญ่เเห่งหนึ่งของโลกและยังได้ขึ้นทะเบียนว่าเป็นมรดกของโลกอีกด้วย โดยสถูปสวะยัมภูนาถนั้นมีลักษณะคล้ายโอคว่ำขนาดใหญ่สีขาว เป็นสัญลักษณ์ของศาสนาพุทธนิกายมหายาน ด้านบนจนถึงยอดสถูปสร้างเป็นทรงสี่เหลี่ยม มีภาพวาดเป็นรูปดวงตาไว้ทั้งหมด 4 ด้าน โดยมีความหมายถึง ดวงตาแห่งธรรมของพระพุทธเจ้า หรือดวงตาแห่งปัญญาทั้งสี่ทิศ

ค่ำ     บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารเมนูอาหารท้องถิ่น พิเศษ!! ชิมอาหารพื้นเมืองแบบดั้งเดิมของเนปาล ลิ้มรสไวน์ข้าว ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องดื่มท้องถิ่น พร้อมชมการแสดงวัฒนธรรมพื้นเมือง

พักที่      HotelThamel Park, Kathmanduหรือระดับเทียบเท่า

 

Day4    อิสระเลือกสัมผัสประสบการณ์ใหม่ “Everest Scenic Mountain Flight” - พระนารายณ์บรรทมสินธุ์ หรือวัดบุดทะนิลกัณฑะ - ย่านถนนทาเมล - สนามบินตริภูวัน - สนามบินดอนเมือง ประเทศไทย

OPTIONทุกท่านสามารถซื้อกิจกรรมเสริมที่ถือว่าเป็นกิจกกรมแนะนำที่ไม่ควรพลาดหากท่านใดที่ได้มาเยือนยังประเทศเนปาล “Everest Scenic Mountain Flight” หรือที่เรียกว่าการนั่งเครื่องบินชมวิวของยอดเขา เพื่อสัมผัสบรรยากาศของเทือกเขาหิมาลัย หรือยอดเขาเอเวอเรสต์ได้อย่างใกล้ชิด และที่สำคัญยังถือว่าทุกท่านจะได้มีโอกาสได้ขึ้นไปชมจุดที่สูงที่สุดของโลกอีกด้วยโดยจ่ายเพิ่มท่านละ 275USD(ใช้ระยะเวลาสำหรับกิจกรรมนี้ประมาณ50นาที)

                                05.00 น.            บริการรถรับจากโรงแรม ไปยังสนามบิน

06.00 น.              นำทุกท่านเพลิดเพลินไปกับ Everest Scenic Mountain Flight

07.00 น.              เดินกลับมายังโรงแรม

หมายเหตุ: สำหรับ Option “Everest Scenic Mountain Flight” แนะนำทำการจองล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 วัน โดยสามารถแจ้งความประสงค์ได้ที่หัวหน้าทัวร์ 

เช้า        บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านชม พระนารายณ์บรรทมสินธุ์ หรือวัดบุดทะนิลกัณฑะซี่งเป็นอวตารปางหนึ่งของพระวิษณะ 1 ในอวตาร 10 ปางที่มาช่วยเหลือโลกในช่วงที่โลกเกิดกรลียุค ชมความงดงามของการแกะสลักจากก้อนหินก้อนเดียวองค์พระวีษณะ บรรทมอยู่ท่ามฆทฟรส ฤรพฟักลางงู ที่อารักษ์ปกป้องพระองค์

เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร เมนูอาหารจีน

จากนั้นนำทุกท่านเดินทางไปยัง ย่านถนนทาเมล ตั้งอยู่ในเมืองกาฐมาณฑุ ให้ทุกท่านได้อิสระช้อปปิ้นเพลิดเพลินไปกับสินค้าพื้นเมืองมากมาย ภายในตลาดสองข้างทางจะประกอบไปด้วย อาทิเช่น ร้านอาหารนานาชาติ ร้านขายของต่างๆ ฯลฯ โดยเฉพาะสินค้าที่เป็นหัตถกรรมพื้นเมือง เครื่องประดับที่ทําจากหินตํางๆ และอุปกรณ์สําหรับการปีนเขา สถานที่แห่งนี้ถือได้ว่าเป็นจุดแลนด์มาร์คอีกหนึ่งจุดที่ไม่ว่านักท่องเที่ยวจะต้องไม่พลาดที่จะมาแวะเที่ยวชม หรือเดินช้อปปิ้งเลือกซื้อของฝากได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ สนามบินตริภูวัน เมืองกาฐมัณฑุ

18.20         เหินฟ้าสู่ กรุงเทพฯ โดย สายการบินThai Lion Airเที่ยวบินที่ SL221ไม่มีบริการอาหารบนเครื่อง

22.45         เดินทางถึง สนามบินดอนเมือง ประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ ... พร้อมความประทับใจ