17 – 24 ตุลาคม 2568
(วันปิยมหาราช)
30 พ.ย. – 07 ธ.ค. 68
(วันพ่อแห่งชาติ)

ทัวร์ยุโรป เที่ยวยุโรป ยุโรปราคาถูก ไปยุโรป ยุโรปตะวันออก

ที่เที่ยวยุโรปตะวันออก 

ยุโรปตะวันออก เยอรมัน ออสเตรีย เช็ค สโลวาเกีย

ปราสาทนอยฯ ฮัลล์สตัทท์ พระราชวังเชินบรุนน์

EASTERN EUROPE  8 วัน 5 คืน

 เที่ยวสุดคุ้ม ดินแดนยุโรปตะวันออก เมืองไข่มุกแห่งออสเตรีย และเมืองมรดกโลกแห่งแคว้นโบฮีเมีย 

Day1       สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย – สนามบินฮามัด กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์           

17.00         นัดหมายพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โปรดสังเกตุป้าย เลทส์โกกรุ๊ป พบเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกเช็คอินให้แก่ท่าน

20.00         ออกเดินทางสู่ สนามบินฮามัด กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ โดยสายการบิน Qatar Airways เที่ยวบินที่ QR835 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)

22.45     เดินทางถึง สนามบินฮามัด กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ และรอต่อเครื่อง

Day2       สนามบินฮามัด กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ – สนามบินมิวนิค ประเทศเยอรมัน – เมืองมิวนิค – สนามฟุตบอลอาลิอันซ์ อารีน่า – ศาลากลางเมืองมิวนิค – จัตุรัสมาเรียนพลัทซ์ – พระราชวังลินเดอร์ฮอฟ – เมืองฟุสเซ่น    

02.00         นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินมิวนิค ประเทศเยอรมัน โดยสายการบิน Qatar Airways เที่ยวบินที่ QR059 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)

07.00    เดินทางถึง สนามบินมิวนิค ประเทศเยอรมัน หลังจากนั้นนำท่านผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองรับสัมภาระพร้อมออกเดินทางตามรายการ(เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง)  นำท่านเดินทางสู่ เมืองมิวนิค (Munich) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของรัฐไบเอิร์น ประเทศเยอรมัน เป็นเมืองที่ใหญ่ เป็นอันดับ 3 ในเยอรมันรองจากเบอร์ลินและฮัมบวร์ค มิวนิคตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำอีซาร์ ซึ่งเป็นแม่น้ำสาขาของแม่น้ำดานูบ จากนั้นนำท่านถ่ายรูปที่ระลึกกับ  สนามฟุตบอล อัลลิอันซ์ อารีน่า (Allianz Arena) มีชื่อเล่นว่าเรือยาง สนามเหย้าของสโมสรทีมฟุตบอลบาเยิร์น มิวนิค สโมสรชั้นนำของโลก หนึ่งในสนามฟุตบอลสมัยใหม่ที่สวยงามที่สุดในโลก อิสระให้ท่านเดินชมและช้อปปิ้งตามอัธยาศัย นำท่านชม ศาลากลางเมืองมิวนิค (Neues Rathaus) ที่ตั้งอยู่ด้านเหนือของ จัตุรัสมาเรียน พลัทซ์ (Marienplatz) จัตุรัสมาเรียน พลัทซ์ หรือ จัตุรัสพระแม่มารี คือจัตุรัสกลางเมืองของนครมิวนิค ถือเป็นจัตุรัสหลักประจำเมืองมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1158 และยังเป็นที่ตั้งของเสาอนุสรณ์ พระแม่มารี ซึ่งตั้งตระหง่านที่จัตุรัสแห่งนี้มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1638 ในปัจจุบัน ด้านเหนือของจัตุรัสนี้เป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองแห่งเก่า และด้านตะวันออกเป็นที่ตั้งของศาลาการเมืองแห่งใหม่ จัตุรัสนี้ถือว่าเป็นแลนด์มาร์คของมิวนิคเลยก็ว่าได้ ซึ่งมีร้านอาหาร ร้านสินค้า แบรนด์เนมต่างๆ ให้ท่านเดินเลือกชมได้อย่างมากมาย มีสถาปัตยกรรมต่างๆที่ออกแบบและตกแต่งสไตล์โกธิค อิสระให้ท่านเดินชมเมืองและช้อปปิ้งตามอัธยาศัย

เที่ยง    บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคารอาหาร (1)

นำท่านถ่ายรูปด้านนอก พระราชวังลินเดอร์ฮอฟ (Linderhof Palace) (เดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เป็นวังที่เล็กที่สุดที่สร้างโดยพระเจ้าลูทวิชที่ 2 แห่งบาวาเรีย ถูกใช้เป็นที่ประทับในยามล่าสัตว์ในอดีต สามารถชมความสวยงามของจิตรกรรมและสถาปัตยกรรมได้ทั้งภายใน (ห้ามบันทึกภาพ) และภายนอก ที่แสดงถึงฝีมือของจิตรกรไว้มากมาย โดยเน้นสีน้ำเงินเป็นหลักในการตกแต่ง ซึ่งมีบางส่วนจำลองมาจากพระราชวังแวร์ซายน์ประเทศฝรั่งเศส

นอกจากนั้นบริเวณโดยรอบพระราชวังยังถูกตกแต่งด้วยพรรณไม้นานาชนิด หมุนเวียนกันไปตามฤดูกาลสร้างบรรยากาศสุดโรแมนติกให้กับนักท่องเที่ยวในช่วงเวลาที่ต่างกันออกไป รวมถึงลานน้ำพุ ถ้ำจำลองที่ด้านในมีสีของไฟสลับหมุนเวียนกันไป และใช้เป็นที่ชมการเล่นละครในอดีต จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองฟุสเซ่น (Fussen) (เดินทางประมาณ 1 ชม.) ฟุสเซ่นเป็นเมืองในบาวาเรีย อยู่ห่างจากชายแดนออสเตรียประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในด้านการผลิตเครื่องดนตรีไวโอลีน นอกจากนี้เมืองนี้ก็ยังมีความน่ารักในตัวเองเพราะเป็นเมืองเล็กๆ ขนาดไม่ใหญ่มากนัก ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าเขาและธรรมชาติ

ค่ำ    บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (2)

ที่พัก      Central City Hotel Fussen ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

Day3 เมืองฟุสเซ่น – เข้าชมปราสาทนอยชวานซไตน์ – เมืองซาลส์บูร์ก – สวนมิราเบล – บ้านเกิดโมสาร์ท –                  ถนนเก็ตเตรียกาสเซส  

เช้า   บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (3)

นำท่านเข้าชม ปราสาทนอยชวานซไตน์ (Neuschwanstein Castle) เป็นปราสาทตั้งอยู่ในเทือกเขาแอลป์แถบบาวาเรีย ประเทศเยอรมัน สร้างในสมัยพระเจ้าลูทวิชที่ 2 แห่งบาวาเรีย ในช่วง ค.ศ. 1845 – 1886 ออกแบบโดย Christian Jank ตามจินตนาการของพระเจ้าลุดวิทที่ 2 แห่งบาวาเรีย มีพระประสงค์ให้จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับอย่างสันโดษ ห่างจากผู้คนและเพื่ออุทิศให้แก่ มหากวีชื่อ ริชาร์ท วากเนอร์ ผู้ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างให้เป็นไปตามบทประพันธ์เรื่อง โลอินกรีน มีเนื้อหาเกี่ยวกับอัศวินขี่หงส์ขาว ดังนั้นปราสาทแห่งนี้จึงได้รับการตกแต่งตามเรื่องราวในบทประพันธ์ดังกล่าว ปราสาทนี้เป็นปราสาทยุโรปที่งดงามมากที่สุดในโลก และเป็นต้นแบบของการสร้างปราสาทเทพนิยายเจ้าหญิงนิทรา สวนสนุกดิสนีย์แลนด์และโตเกียวดิสนีย์แลนด์ รวมไปถึงแดนเนรมิต **รวมค่าเข้าชมปราสาทนอยชวานซไตน์แล้ว ในกรณีที่ไม่สามารถเข้าชมภายในปราสาทได้ซึ่งจะทราบ ณ วันเดินทาง ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการคืนค่าตั๋วเข้าชม ท่านละ 18.5 ยูโร ทั้งนี้ยังสามารถเที่ยวชมบริเวณโดยรอบของปราสาทได้ หรือ จุดชมวิวปราสาท ตามความเหมาะสม ณ วันเดินทาง** 

เที่ยง    บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร (4) พิเศษ...ขาหมูเยอรมัน

นำท่านเดินทางสู่ เมืองซาลส์บูร์ก (Salzburg) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง) เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ในประเทศออสเตรียเมืองเก่าของซาลส์บูร์กเป็นสถาปัตยกรรมแบบบาโรก เป็นหนึ่งในใจกลางเมืองที่ถูกดูแลรักษาอย่างดีที่สุดในกลุ่มประเทศที่พูดภาษาเยอรมันด้วยกัน ได้รับขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก เมื่อปี 1996 นำท่านเข้าชม สวนมิราเบล (Mirabell Palace & Gardens) ซาลส์บูร์กมีอาคารและสวนเก่าแก่ไม่มากนัก แต่มีพระราชวังมิราเบลล์อันโดดเด่นและเป็นหนึ่งในอาคารที่ดีที่สุดในออสเตรีย พระราชวังแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอนุสาวรีย์มรดกทางวัฒนธรรม สร้างขึ้นในปี 1606 นอกจากพระราชวังแล้ว ยังมีสวนที่สวยงามจนน่าอัศจรรย์ สวนนี้ให้ทัศนียภาพอันงดงามของวิหาร นำท่านถ่ายรูปด้านนอกกับ บ้านเกิดโมสาร์ท (House of Walfgang Amadeus Mozart) กวีเอกของโลกชาวออสเตรียปัจจุบันนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงประวัติของโมสาร์ทและครอบครัว  นำท่านเดินทางสู่ ถนน Getreidegasse (หรืออีกชื่อหนึ่งคือ Grain Lane) ยังมีแหล่งช็อปปิ้ง ที่รวมร้านค้าแบรนด์เนมให้เลือกมากมาย ทั้งเครื่องประดับ, เครื่องแต่งกายพื้นบ้าน, เครื่องประดับอินเทรนด์, ของโบราณ รวมถึงร้านอาหารนั่งดื่มชิล ๆ

ค่ำ     อิสระอาหารค่ำ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาในการท่องเที่ยวและช้อปปิ้งของท่าน

ที่พัก      Leonardo Hotel, Salzburg ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

Day4       เมืองซาลส์บูร์ก – เมืองฮัลล์สตัทท์ – โบสถ์แพริช – โบสถ์ประจำเมืองฮัลล์สตัทท์ – จัตุรัสกลางเมือง –   เมืองเชสกี้ ครุมลอฟ – ปราสาทครุมลอฟ – เมืองเชสเกบูเดอโจวิซ

เช้า      บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (5)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) หมู่บ้านมรดกโลกอันแสนโรแมนติก ที่มีอายุกว่า 4,500 ปี เมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ โอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าสีเขียวขจีสวยงามราวกับภาพวาด กล่าวกันว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดใน Salzkammergut เขตที่อยู่บนอัพเพอร์ออสเตรีย และมีทะเลสาบสวยถึง 76 แห่ง ออสเตรียได้ให้ฉายาเมืองนี้ว่า “ไข่มุกแห่งออสเตรีย” และ ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์กรยูเนสโก เมื่อปี 1997 อิสระให้ท่านเดินชมเมืองตามอัธยาศัย นำท่านถ่ายภาพกับ โบสถ์แพริช (Parish Church) โบสถ์สวยริมทะเลสาบมีอายุกว่า 500 ปี ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 12 ก่อสร้างขึ้นท่ามกลางซากปรักหักพังของป้อมโรมัน       แวะถ่ายภาพกับ โบสถ์ประจำเมืองฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt Lutheran Church) ที่มียอดแหลมสูงเด่นเป็นสง่าจากทุกมุมมองของเมือง เป็นโบสถ์นิกายโปรเตสแตนต์ สร้างขึ้นเมื่อประมาณปี ค.ศ. 1785 เพื่อใช้เป็นสถานที่ฟังเทศนา พระราชกฤษฎีกาโดยจักรพรรดิโยเซฟที่ 1 ผ่านชม จัตุรัสกลางเมือง (Central Square Marktplatz) ที่โดดเด่นด้วย รูปปั้นโฮลี่ทรินิตี้ (Holy Holy Trinity Statue) เป็นสถานที่จัดงานเทศกาลสำคัญต่างๆของเมือง

เที่ยง    บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร (6)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองเชสกี้ ครุมลอฟ (Cesky Krumlov) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) เป็นเมืองขนาดเล็กในภูมิภาคโบฮีเมียทางตอนใต้ของประเทศสาธารณรัฐเช็ก มีชื่อเสียงจากสถาปัตยกรรม และศิลปะของเขตเมืองเก่า ด้วยทำเลที่ตั้งของตัวเมืองที่มีคู่น้ำล้อมรอบ ทำให้กลายเป็นปราการที่สำคัญในการป้องกันข้าศึก ในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางด้านการปกครอง การพิพากษาคดีและการจัดเก็บภาษี ต่อมาในปี ค.ศ. 1963 ได้รับการประกาศว่าเป็นเมืองที่ได้รับการอนุรักษ์และภายหลังจากมีการเปลี่ยนแปลงทางสังคมของประเทศ ในตอนปลายปี ค.ศ. 1989 ได้มีการบูรณะอาคารและปราสาทครั้งใหญ่โดยยังคงรักษารูปแบบเดิมไว้อย่างน่าชื่นชม  จากประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน มีความสำคัญและโดดเด่นในการอนุรักษณ์สถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่า

ที่ได้รับการขนานนามว่า “ไข่มุกแห่งโบฮีเมีย” ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. 1992 นำท่านถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับ ปราสาทครุมลอฟ (Krumlov Castle) จากบริเวณรอบนอก ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1250 ถือเป็นปราสาทที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองลงมาจากปราสาทปราก มีอายุเก่าแก่กว่า 700 ปี ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำวอลตาวา (Valtawa River) ตรงบริเวณคุ้งน้ำ ฝั่งตรงข้ามเป็นย่านเมืองเก่าคลาสสิค (Senete Square) และโบสถ์เก่าแก่กลางเมือง

นำท่านเดินทางสู่ เมืองเชสเกบูเดโจวิซ (Ceske Budejovice) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) เมืองที่ได้ชื่อว่า เป็นแหล่งผลิตเบียร์ที่สำคัญ ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศสาธารณรัฐเช็ก ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1895 ภายใต้ยี่ห้อ Budvar และเป็นถิ่นกำเนิดของเบียร์ยี่ห้อ Budweiser ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก

ค่ำ     บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (7) พิเศษ...เป็ดโบฮีเมียน

ที่พัก      CPI Hotels, a.s. – Clarion Congress Hotel Ceske Budejovice ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

Day5       กรุงปราก – ปราสาทปราก – มหาวิหารเซนต์วิตัส – ย่านช่างทองโบราณ – สะพานชาร์ล – ประตูเมืองเก่า –            หอนาฬิกาดาราศาสตร์ – เมืองบราติสลาวา – ปราสาทบราติสลาวา – มหาวิหารเซนต์มาร์ติน

เช้า   บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (8)

นำท่านเดินทางสู่ กรุงปราก (Praque) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เมืองหลวงแห่งสาธารณรัฐเช็ก มหานครที่มีความสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ปรากเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรม ที่เต็มไปด้วยปราสาทเก่าแก่ มีเสน่ห์ เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 12 นำท่านถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับ ปราสาทปราก (Prague Castle) ที่สร้างขึ้นอยู่บนเนินเขาตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 9 ในสมัยเจ้าชาย Borivoj แห่งราชวงศ์ Premyslids ซึ่งปัจจุบันเป็นทำเนียบประธานาธิบดีมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1918 ผ่านชม มหาวิหารเซนต์วิตัส (St. Vitus Cathedral) อันสง่างามด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคในสมัยศตวรรษที่ 14 นับว่าเป็นมหาวิหารสไตล์โกธิคที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ซึ่งพระเจ้าชาร์ลที่ 4 โปรดให้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1344 ภายในเป็นที่เก็บพระศพของกษัตริย์สำคัญในอดีต เช่น พระเจ้าชาร์ลที่ 4, พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 1 และ พระเจ้าแมกซิมิเลี่ยนที่ 2 เป็นต้น จากนั้นนำท่านผ่านชม ย่านช่างทองโบราณ (Golden Lane) ซึ่งปัจจุบันมีร้านขายของที่ระลึก จำหน่ายอยู่มากมาย ชม สะพานชาร์ล (Charles Bridge) สะพานเก่าแก่ข้ามแม่น้ำวัลตาวา สะพานที่ออกแบบสไตล์กอธิคที่สร้างขึ้นตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 14 สมัยพระเจ้าชาร์ลที่ 4 ชมรูปปั้นโลหะของเหล่านักบุญที่ตั้งอยู่สองข้างราวสะพานกว่า 30 องค์ และเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองที่เรียงรายอยู่ตลอดแนวสะพาน นำท่านเดินทางสู่ ประตูเมืองเก่า (Powder Gate) ขอบเขตเมืองในสมัยโบราณ ผ่านชม หอนาฬิกาดาราศาสตร์ (Astronomical Clock) ถูกสร้างขึ้นมากว่า 600 ปี ในทุกชั่วโมงตั้งแต่เวลา 09:00 จนถึง 21:00 น. เมื่อถึงเวลาที่นาฬิกาบอกเวลาจะมีหน้าต่างเล็กๆ สองบานเปิดออก ขบวนตุ๊กตารูปปั้นที่เป็นสาวกพระเยซูก็พากันเดินพาเหรดออกมาปรากฏโฉมให้ได้ชม โดยนาฬิกาดาราศาสตร์ที่นี่สามารถบอกเวลาได้ทั้ง วัน เดือน ปี รวมไปถึงจักรราศีอีกด้วย  จากนั้นอิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าต่างๆมากมายในย่านประตูเมืองเก่า มีทั้งสินค้าของฝาก ของที่ระลึก รวมทั้งร้านค้าแฟชั่นชั้นนำ แบรนด์เนม อาทิ เช่น Louis Vitton , Gucci , Hermes , Hugo Boss , Burberry 

เที่ยง           บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร (9) 

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองบราติสลาวา (Bratislava) (เดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสโลวัก (Slovak) ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำดานูบที่บริเวณพรมแดนของ สโลวัก ออสเตรีย และฮังการีและใกล้กับพรมแดนสาธารณรัฐเช็ก

นำท่านถ่ายภาพด้านนอก ปราสาทบราติสลาวา (Bratislava Castle) ซึ่งเป็นอาคารทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าตั้งอยู่บนเนินเขา ริมฝั่งแม่น้ำดานูบ ท่านสามารถชมทัศนียภาพอันงดงามของเมืองได้จากมุมของปราสาทแห่งนี้ จากนั้นนำท่านเดินเล่นย่านเมืองเก่าที่สวยงามของกรุงบราติสลาวา นำท่านถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับ มหาวิหารเซนต์มาร์ติน (St. Martin′s Church) สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1204 โดยกษัตริย์ชาวฮังการีที่สมัยนั้นปกครองเมืองบราติสลาวาอยู่ ด้วยทำเลที่ตั้งของเมืองอยู่จุดกึ่งกลางระหว่างเมืองเวียนนากับเมืองบูดาเปสต์ ในสมัยที่ยังเป็นจักรวรรดิฮังการีอยู่ โบสถ์แห่งนี้จึงถูกใช้เป็นสถานที่สำหรับพิธีราชาภิเษกสำหรับกษัตริย์ของประเทศออสเตรียและประเทศฮังการี อย่างพระเจ้าแมกซิมิลานที่ 2 แห่งราชวงศ์ฮอฟบวร์ค รวมไปถึงสมเด็จพระนางเจ้ามาเรียเทเรซ่าแห่งประเทศออสเตรีย พระมารดาของพระนางมารีอังตัวเน็ต จักรพรรดินีที่ทรงอิทธิพลที่สุดของทวีปยุโรป

ค่ำ    อิสระอาหารค่ำ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาในการท่องเที่ยวและช้อปปิ้งของท่าน

ที่พัก      Apollo Hotel, Bratislava ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

Day6       พาร์นดอร์ฟ เอาท์เล็ท – กรุงเวียนนา – พระราชวังฮอฟเบิร์ก – โบสถ์เซนต์สตีเฟ่น – ถนนคาร์ทเนอร์ สตรีท 

เช้า   บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (10)

นำท่านเดินทางสู่ พาร์นดอร์ฟ เอาท์เล็ท (Parndorf Outlet) (เดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เอาท์เล็ทแห่งแรกของประเทศออสเตรีย และเป็นแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ มีร้านค้ามากกว่า 120 ร้าน สินค้าแบรนด์ชื่อดังต่างๆ จากทุกมุมโลก มีให้เลือกมากมายอย่างจุใจ เช่น รองเท้า เสื้อผ้า เครื่องประดับ ของตกแต่งบ้าน สินค้าแบรนด์เนมมากมาย ให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม อาทิ Bally , Burberry , Calvin Klein , Camel  Fossil , Guess , Lacoste , Levi’s , Nike , Samsonite , Swarovski , Tommy Hilfiger , Valentino , Versace 

เที่ยง         อิสระอาหารเที่ยง เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาในการท่องเที่ยว

นำท่านเดินทางสู่ เมืองเวียนนา (Vienna) (เดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เป็นเมืองหลวง เมืองใหญ่สุดของประเทศออสเตรีย เวียนนาเป็นนครที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศ โดยมีผู้อาศัยทั้งสิ้น 2 ล้านคนและยังเป็นศูนย์กลางทางด้านวัฒนธรรม เศรษฐกิจ และการเมือง เวียนนาเป็นนครที่มีประชากรในเขตเมืองมากที่สุดเป็นอันดับที่ 6 ของสหภาพยุโรป นำท่านถ่ายรูปด้านนอก พระราชวังฮอฟเบิร์ก (Hofburg Palace) ซึ่งเคยเป็นที่ประทับของราชสำนักฮอฟเบิร์กมาตั้งแต่คริสศตวรรษที่ 13-20 นำท่านถ่ายรูป โบสถ์เซนต์สตีเฟ่น (St. Stephen’s Cathedral) สัญลักษณ์ของเมืองเวียนนา ซึ่งพระเจ้าคาร์ลที่ 6 โปรดให้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1713 เพื่อเป็นการแก้บนต่อความทุกข์ยากของประชาชน

นำท่านเยี่ยมชม ถนนคาร์ทเนอร์ สตรีท (Kaerntner Street) เป็นแหล่งถนนคนเดินและชอปปิ้ง สำหรับคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวที่นิยมในการนั่งจิบกาแฟต้นตำรับแท้ และซัคเกอร์เค้กที่มีชื่อเสียงของกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เป็นศูนย์กลางของถนนสายช๊อปปิ้งแยกออกไปอีก 8 แฉก แยกออกไปตามซอยเล็กๆแต่เต็มไปด้วยร้านค้าจำนวนมากอาทิเช่น สินค้าแบรนด์เนม Louis Vitton, Gucci, ร้านนาฬิกา Bucherer, Zara , H&M, Pandora ร้านของที่ระลึก คาเฟ่ และร้านอาหารต่างๆ

ค่ำ    บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (11)

ที่พัก      JUFA Hotel Wien City, Vienna ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า 

Day7 เข้าชมพระราชวังเชินบรุนน์ – สนามบินเวียนนา ประเทศออสเตรีย – สนามบินฮามัด กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์

เช้า             บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (12)

นำท่านเข้าชมความสวยงามของ พระราชวังเชินบรุนน์ (Schonbrunn Palace) แห่งราชวงศ์ฮอฟบวร์คซึ่งจะมีไกด์ท้องถิ่นนำท่านชมห้องต่างๆและเล่าประวัติการสร้างมาของพระราชวังตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 16 และต่อมาพระนางมาเรีย เทเรซ่า ให้สร้างขึ้นใหม่อย่างสง่างามด้วยจำนวนห้องถึง 1,441 ห้อง ในระหว่างปี ค.ศ. 1744-1749 เพื่อใช้เป็นพระราชวังฤดูร้อน ชมความ    โอ่อ่าของท้องพระโรงและโถงพลับพลาที่ประทับ ซึ่งได้รับการตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจงสวยงามไม่แพ้พระราชวังแวร์ซายส์ในประเทศฝรั่งเศส โดยรอบของพระราชวังเชินบรุนน์ ถูกรายล้อมด้วยสวนที่จัดตกแต่งประดับประดา จากต้นไม้ ดอกไม้ตามฤดูกาล ได้อย่างสวยงามตระการตา ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก เมื่อปี 1996 ** รอบของการเข้าชมอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม กรณีไม่สามารถเข้าชมได้ ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่สามารถคืนค่าใช้จ่าย ไม่ว่าส่วนใดส่วนหนึ่งให้กับท่านได้ทุกกรณี เนื่องจากเป็นการชำระล่วงหน้ากับผู้แทนเรียบร้อยแล้วทั้งหมด **

ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางเข้าสู่ สนามบินเวียนนา ประเทศออสเตรีย เพื่อเดินทางกลับประเทศไทย

16.05         นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดยสายการบิน Qatar Airways เที่ยวบินที่ QR184 (บริการอาหารและเครื่องดื่ม บนเครื่อง)

22.35         เดินทางถึง สนามบินฮามัด กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ และรอต่อเครื่อง

Day8  สนามบินฮามัด กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ – สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย

02.35           นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสายการบิน Qatar Airways เที่ยวบินที่ QR836 (บริการอาหารและเครื่องดื่ม   บนเครื่อง)

13.25  เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ ... พร้อมความประทับใจ