Top

สวิส เยอรมนี ออสเตรีย 9 วัน 6 คืน

ชื่อทัวร์ : สวิส เยอรมนี ออสเตรีย 9 วัน 6 คืน
สายการบิน : Emirates
ระยะเวลา : 9 วัน 6 คืน
ราคาเริ่มต้น : 99,999 บาท
วันที่เดินทาง

28 พ.ค. – 05 มิ.ย. 2566
13 – 21 ตุลาคม 2566
20 – 28 ตุลาคม 2566
25 พ.ย. – 03 ธ.ค. 2566
03 – 11 ธันวาคม 2566
25 ธ.ค. 66 – 02 ม.ค. 67
26 ธ.ค. 66 – 03 ม.ค. 67

รายละเอียดทัวร์

  ทัวร์ยุโรป ยุโรปตะวันออก  EUROPE ไปยุโรป เที่ยวยุโรป 

สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี ออสเตรีย 9 วัน 6 คืน

ราคารวมค่าวีซ่า ทิปไกด์ท้องถิ่น ค่าเข้าแต่ละสถานที่ตามโปรแกรมเรียบร้อยแล้ว

**ทิปหัวหน้าทัวร์ ไม่บังคับ ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของท่าน**

 

วันแรก                     สนามบินสุวรรณภูมิ • สนามบินดูไบ              (-/-/-)

23.00 น.                   พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 10 ROW U เคาน์เตอร์ สายการบินเอมิเรตต์ Emirate Airline (EK) โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการเช็คอินให้แก่ทุกท่าน

วันที่สอง                  ดูไบ • ซูริค • เมืองลูเซิร์น • อนุสาวรีย์สิงโต • สะพานไม้ชาเปล       (-/-/เย็น)

02.00 น.              ออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยเที่ยวบินที่ EK 377  (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)

06.00 น.              เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ (เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง)

08.40 น.              ออกเดินทางสู่ เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์  โดยเที่ยวบินที่ EK087

13.20 น.              เดินทางถึงเดินทางถึง สนามบินซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง)

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น (Luzern) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) หนึ่งในเมืองที่งดงามที่สุดของประเทศ 

นำท่านถ่ายรูปกับ อนุสาวรีย์สิงโต (Lion Monument) ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นการรำลึกถึงทหารหาญชาวสวิสผู้ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่จนวินาทีสุดท้าย อนุสาวรีย์นี้คือสัญลักษณ์สำคัญของลูเซิร์นที่ไม่มีนักท่องเที่ยวคนไหนพลาดมาที่นี่ 

นำท่านชม สะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) อันเป็นสัญลักษณ์ของเมือง และได้ชื่อว่าเป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ทอดยาวระหว่างแม่น้ำ Reuss โดยสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14

จากนั้น ให้ท่านได้ชมความงามของสถาปัตยกรรมรอบๆตัวเมืองใน เขตเมืองเก่า (Oldtown) ด้วยตัวอาคารสไตล์ยุโรปผนวกกับร้านสมัยใหม่ ทำให้เป็นหนึ่งในความวิเศษของเขตนี้

ค่ำ                            บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

ที่พัก                        Hotel Astoria Luzern หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน

(โรงแรมที่นำเสนอเป็นโรงแรมเสนอเบื้องต้นเท่านั้น  ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนเดินทาง ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พัก ไปพักเมืองใกล้เคียงกรณีติดงานแฟร์หรือมีเทศกาล)

วันที่สาม                  เมืองแองเกิลเบิร์ก •  นั่งกระเช้าหมุนแบบ 360 องศาสู่ ยอดเขาทิสลิส • ถ้ำน้ำแข็ง • เมืองเซนต์ กัลป์แลน (เช้า/กลางวัน/เย็น)

เช้า                          บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นเดินทางสู่ เมืองแองเกิลเบิร์ก (Engelberg) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที) พาท่านขึ้นสู่ ยอดเขาทิสลิส (Titlis) โดยกระเช้าหมุนแบบ 360 องศา ที่ความสูง 3,239 เมตร เข้าชม ถ้ำน้ำแข็ง (Ice Grotto) ที่ไม่เคยละลาย ชมทิวทัศน์ของยอดเขาต่างๆ ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะอันขาวโพลนสร้างความงดงามให้กับขุนเขาเป็นอันมาก

กลางวัน                    บริการอาหารกลางวัน ณ Panorama Titlis restaurant ร้านอาหารที่อยู่ท่ามกลางเทือกเขาพร้อมกับวิวเทือกเขาแอลป์

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเซนต์ กัลแลน (St.Gallen) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) อีก 1 เมืองที่มีความเก่าแก่ และสวยงามเป็นอย่างมากจนได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นเมืองมรดกโลก ให้ท่านได้ เดินเล่นอิสระในตัวเมือง ซึ่งมีร้านค้ามากมายรวมถึงร้านของฝากต่างๆ เคล้ากับบรรยากาศของบ้านเรือนที่มีความสวยงามเป็นระเบียบเรียบร้อย

ค่ำ                            บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น พิเศษ! เมนูสวิสฟองดู แบบจัดเต็ม 

ที่พัก                        Radisson Blu Hotel St. Gallen หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน

(โรงแรมที่นำเสนอเป็นโรงแรมเสนอเบื้องต้นเท่านั้น  ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนเดินทาง ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พัก ไปพักเมืองใกล้เคียงกรณีติดงานแฟร์หรือมีเทศกาล)

วันที่สี่                      เมืองวาดุซ • ศาลากลางเมืองวาดุซ • วิหารเซนต์ฟลอริน • เมืองอินส์บรุค (เช้า/กลางวัน/เย็น)

เช้า                           บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองวาดุซ (Vaduz) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เมืองหลวงของประเทศ ลิกเตน สไตน์ (Liechtenstein) เป็นประเทศเล็กๆ มีพื้นที่เพียง 160 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น มีประชากรกว่า 5,100 คน ซึ่งประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิก

จากนั้นอิสระให้ท่านเดินชมเมืองท่านจะได้พบกับ ศาลากลางเมืองวาดุซ (Vaduz City Hall) ตั้งอยู่บนถนนสาย Städtle ซึ่งเป็นย่านที่พักโรงแรม ร้านอาหารและคาเฟ่จำนวนมาก ที่นี่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1932 ได้รับการปรับปรุงใหม่ในปี ค.ศ.1982 ถึง ค.ศ.1984 ด้านหน้าสามารถมองเห็นตราแผ่นดินซึ่งแกะสลักด้วยหินเหนือประตูทางเข้า นำท่านถ่ายรูปกับ วิหารเซนต์ฟลอริน (St. Florin Cathedral) สถานที่สำคัญที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในเมืองวาดุซ สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1874 ด้วยสถาปัตยกรรมนีโอโกธิค เป็นศูนย์กลางของคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิกในวาดุซ

กลางวัน                    บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

จากนั้นนำท่านเดินทางลงเข้าสู่ เมืองอินส์บรุค (Innsbruck) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.20 ชม.) เป็นเมืองหลวงของรัฐทีโรล ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของประเทศออสเตรีย ตั้งอยู่บนที่ราบลุ่มแม่น้ำอินน์ กลางหุบเขาของเทือกเขาแอลป์ เป็นเมืองเล็กๆ ที่โอบล้อมด้วยภูเขาหิมะขนาดใหญ่ยักษ์ประกบอยู่ทางทิศเหนือ และทิศใต้ มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และสถาปัตยกรรมสวยงาม

จากนั้นนำท่านเดินชม ย่านเมืองเก่า (Old Town) บ้านเรือนที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ด้านสถาปัตยกรรมไว้ได้อย่างงดงาม ไม่ว่าจะเป็นซุ้มดอกไม้ หรือไม้เลื้อยตามประตู บานหน้าต่าง นำท่านชมอีก 1 ในสัญญาลักษณ์ที่สำคัญของเมืองอินส์บรุคคือ หลังคาทองคำ (Golden Roof) หลังคาสไตล์บารอกผสมสไตล์โกธิคที่ยื่นออกมาจากระเบียงตกแต่งด้วยทองคำแท้ จำนวน 2,738 แผ่น สร้างในศตวรรษที่ 16 เพื่อเฉลิมฉลองการอภิเษกสมรสครั้งที่ 2 ของจักรพรรดิแมกมิเลียนที่ 1 ชม หอคอยประจำเมืองอินส์บรุค (Stadtturm Innsbruck) ตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่าใกล้กับอาคารหลังคาทองคำ สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1450 เดิมเป็นที่ให้สังเกตการณ์และยังเคยใช้เป็นที่คุมขังนักโทษอีกด้วย ปัจจุบันกลายเป็นหอชมวิวเมืองสำหรับนักท่องเที่ยว อิสระให้ท่านได้ชมเมืองตามอัธยาศัย

ค่ำ                            บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน

ที่พัก                        Austria Trend Hotel Congress หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน

(โรงแรมที่นำเสนอเป็นโรงแรมเสนอเบื้องต้นเท่านั้น  ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนเดินทาง ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พัก ไปพักเมืองใกล้เคียงกรณีติดงานแฟร์หรือมีเทศกาล)

วันที่ห้า        การ์มิช พาร์เทินเคียร์เชิน • นั่งกระเช้าลอยฟ้า Cable Car ขึ้นสู่ยอดเขาซุกสปิตเซ่ • เมืองมิดเทนวาลด์ • การ์มิช พาร์เทินเคียร์เชิน       (เช้า/กลางวัน/เย็น)

เช้า                           บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ การ์มิช พาร์เทินเคียร์เชิน (Garmisch Partenkirchen) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) เมืองสวยในเขตเทือกเขาแอลป์ เป็นแหล่งเล่นสกีที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง เมืองแห่งนี้เคยเป็นสถานที่จัดโอลิมปิกฤดูหนาว 1936 บริเวณใกล้เคียงยังเป็นที่ตั้งของซุกสปิตเซ่ ภูเขาที่สูงที่สุดในเยอรมนี และยังเป็นบ้านเกิดของคีตกวีชื่อดังอย่าง ริชชาร์ท ชเตราส์ ซึ่งจะมีการจัดเทศกาลดนตรีริชชาร์ท-ชเตราส์ในเดือนมิถุนายนของทุกปี

จากนั้นนำท่าน นั่งกระเช้าลอยฟ้า Cable Car ขึ้นสู่ยอดเขาซุกสปิตเซ่ (Zugspitze) ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเยอรมนี ให้ท่านเก็บภาพประทับใจจากจุดชมวิวบนยอดเขาที่สูงที่สุดใน บนความสูง 2,964 เมตร จากบนยอดเขาท่านจะมองเห็นวิวทิวทัศน์รอบตัวซึ่งประกอบไปด้วยยอดเขากว่า 400 ยอดในเขตแดนออสเตรีย อิตาลี ที่ทำให้เกิดกิจกรรมการท่องเที่ยวได้ทั้งปีคือ สกีในฤดูหนาวและเดินเขาในฤดูร้อน เมื่อมองจากยอดเขาจะเห็นทิวทัศน์งดงามกว้างไกลไปถึง 4 ประเทศด้วยกันคือ เยอรมนี ออสเตรีย อิตาลีและสวิสเซอร์แลนด์โดยมียอดเขาที่อยู่เคียงกันอีก 3 ยอดคือ แอล์ปสปิตซ์ (Alpspitz), ครอยเซ็ค (Kreuzeck) และแวงค์ (Wank)

เที่ยง                        รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบนเขาซุกสปิตเซ่

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองมิดเทนวาลด์ (Mittenwald) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที)เมืองกลางป่า ตั้งอยู่เชิงเขาคาร์เวนเดล (Karwendel) ซึ่งมีความสูงถึง 2,244 เมตร พรมแดนระหว่างเยอรมันกับออสเตรีย หมู่บ้านเล็กๆ ล้อมรอบไปด้วยเทือกเขาเอลป์ ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่ติดอันดับต้นๆในเรื่องของความสวยงามของเยอรมนี อิสระให้ท่านเดินชมเมืองตามอัธยาศัย

จากนั้นนำท่านเดินทางกลับ เมืองการ์มิช พาร์เทินเคียร์เชิน (Garmisch Partenkirchen) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที)

ค่ำ                            บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น พิเศษ เมนูขาหมูเยอรมันต้นตำหรับแท้

ที่พัก                        Mercure Garmisch Partenkirchen หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน

(โรงแรมที่นำเสนอเป็นโรงแรมเสนอเบื้องต้นเท่านั้น  ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนเดินทาง ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พัก ไปพักเมืองใกล้เคียงกรณีติดงานแฟร์หรือมีเทศกาล)

 

วันที่หก                      หมู่บ้านปรีน • เกาะแฮเร็นกลางทะเลสาบคีมเซ่ • พระราชวังแฮร์เรินคีมเซ • เมืองฮัลล์สตัท • เมืองเซ็นท์ วูฟกัง       (เช้า/กลางวัน/เย็น)

เช้า                           บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินสู่ หมู่บ้านปรีน (Prien am Chiemsee) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.)  ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ใหญ่ที่สุดริมทะเลสาบคีมเซ หรือทะเลสาบบาวาเรีย ตั้งอยู่ใจกลางแคว้นบาวาเรียตอนเหนือระหว่างเมืองมิวนิคและซาล์สบวร์ก เมืองท่องเที่ยวที่สำคัญในเขตภูมิภาคทะเลสาบคิมเซ่ เพื่อนำท่านล่องเรือไปยัง เกาะแฮเร็นกลางทะเลสาบคีมเซ่ เข้าสู่ พระราชวังแฮร์เรินคีมเซ (Herrenchiemsee Palace) ซึ่งตั้งอยู่กลางทะเลสาบ เป็นพระราชวังที่ได้ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดของกษัตริย์ลุดวิกที่สองแห่งแคว้นบาเยิร์น โดยมีพระประสงค์ให้สร้างเลียนแบบพระราชวังแวร์ซายน์ แต่ให้หรูหราอลังการกว่าด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยในยุคนั้นมีทั้งน้ำประปา น้ำพุ  ห้องน้ำ ห้องส้วม  และระบบทำน้ำร้อนในอ่างอาบน้ำอีกด้วย

ให้ท่านได้เดินชมความงดงามภายในพระราชวังซึ่งไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพภายใน และไม่ควรพลาดชมโคมระย้าใน ห้องเสวย (Chandelier of Meissen porcelain) ซึ่งกล่าวว่าเป็นโคมระย้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก

จากนั้นนำท่านนั่งเรือกลับสู่ ท่าเรือเมืองปรีน

กลางวัน    บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

จากนั้น                พาท่านเดินทางต่อไปยัง หมู่บ้านมรดกโลกที่ได้รับการขนานนามว่า เป็นหมู่บ้านมรกดกโลกที่สวยที่สุดในโลก ฮัลล์สตัท (Hallstatt) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.)

เมืองมรดกโลกที่อยู่ท่ามกลางขุนเขาและทะเลสาบ ตั้งอยู่ในรัฐอัปเปอร์ออสเตรีย มีประชากรไม่ถึง 1,000 คน แต่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนกว่า 800,000 คนต่อปี ด้วยทัศนียภาพตระการตา ที่ธรรมชาติและมนุษย์ร่วมกันประกอบขึ้นทำให้ เป็นสถานที่ที่เป็น The Must ของยุโรปตะวันออก เลยทีเดียว ให้ท่านอิสระในการซึมซับบรรยากาศของเมืองมรดกโลก

ก่อนพาท่านชม เมืองเซ็นท์ วูฟกัง (St.Wolfgang) อีกหนึ่งเมืองที่มีทะเลสาบที่สวย และยังเป็นเมืองตากอากาศที่เลื่องชื่อของประเทศอีกด้วย ให้ท่านได้ผ่อนคลายอริยบทกับธรรมชาติและสถาปัตยกรรมที่อยู่กันอย่างกลมกลืนและลงตัว 

**หากพักที่ฮัลล์ตัทท์ จะพาท่านเที่ยวที่เซ็นท์วูฟกังก่อน

แต่หากพักที่เซ็นท์วูฟกัง จะพาท่านเที่ยวฮัลสตัทท์ก่อน**

ค่ำ                           บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคารท้องถิ่น พร้อมเมนูปลาเทร้าช์

ที่พัก                        Heritage Hotel Hallstatt หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน

(โรงแรมที่นำเสนอเป็นโรงแรมเสนอเบื้องต้นเท่านั้น  ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนเดินทาง ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พัก ไปพักเมืองใกล้เคียงกรณีติดงานแฟร์หรือมีเทศกาล)

 

วันที่เจ็ด                  เมืองกราซ • พระราชวังเอกเกนเบิร์ก • เขาชลอสเบิร์ก • Designer Parndorf Outlet • กรุงเวียนนา   (เช้า/กลางวัน/-)

เช้า                           บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองกราซ (Graz) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชม.) อยู่ทางตอนใต้ประเทศออสเตรีย เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของประเทศรองจากเมืองหลวงอย่างกรุงเวียนนา นำท่านชมหน้า พระราชวังเอกเกนเบิร์ก (Eggenberg Palace) พระราชวังออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมแบบกอธิกและบาโรก เริ่มสร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 โดยได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 2010 ตั้งตระหง่านอยู่ริมเชิงเขา

นำท่านชม เขาชลอสเบิร์ก (Schlossberg Castle Hill) เป็นเนินเขาที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ และเป็นที่ตั้งของ ป้อมปราการกลางเมือง รวมทั้ง หอนาฬิกาเก่าแก่ (Uhrturm) สัญลักษณ์ประจำเมือง ปัจจุบันเนินเขาแห่งนี้เป็นสวนสาธารณะสามารถมองเห็นวิวเมืองได้กว้างไกล เป็นที่ตั้งของสถานบันเทิงคาเฟ่ และร้านอาหารหลายแห่ง

จากนั้นชม ย่านเมืองเก่า (Old Town) เป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมือง (Rathaus), พิพิธภัณฑ์อาวุธโบราณ, สุสานแห่งกษัตริย์ Ferdinand ที่ 2 โบสถ์ต่างๆ รวมทั้งหอนาฬิกาที่จะมีหุ่นไม้แต่งกายแบบท้องถิ่นออกมาเต้นระบำตามเสียงเพลง นอกจากนี้ยังมีร้านค้า ร้านอาหารมากมายเรียงรายอยู่สองฝั่งถนน อิสระให้ท่านได้ซื้อของที่ระลึก และของฝากที่มีชื่อเสียงของเมือง

กลางวัน    บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหาร

นำท่านเดินทางสู่ Designer Parndorf Outlet (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชม.) เมืองให้เวลาท่านได้อิสระ ช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมมาก มาย อาทิ เช่น GUCCI, BALLY, HUGO BOSS ,BENETTON, BURBERRY, CALVIN KLEIN, CROCS, GEOX, GUESS, LACOSTE , NIKE, OAKLEY, DIESEL และอื่นๆอีกมากมาย อิสระท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย

(เอ้าท์เลทปิดวันอาทิตย์ หากโปรแกรมตรงกับวันอาทิตย์ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมเป็น PREMIUM OUTLET BUDAPEST แทน)

เย็น                          อิสระอาหารเย็น เพื่อความสะดวกและไม่เป็นการรบกวนเวลาช้อปปิ้งของท่าน

จากนั้นนำท่านมุ่งหน้าสู่ กรุงเวียนนา (Vienna) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที) เมืองหลวงของออสเตรีย และดนตรีคลาสสิค เป็นเมืองที่โมสาร์ทมาพำนักในยุคที่รุ่งเรืองของชีวิต เมืองหลวงแสนสวยที่ติดอันดับเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก

ที่พัก                        NH Hotel Danube City หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน

(โรงแรมที่นำเสนอเป็นโรงแรมเสนอเบื้องต้นเท่านั้น  ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนเดินทาง ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พัก ไปพักเมืองใกล้เคียงกรณีติดงานแฟร์หรือมีเทศกาล)

วันที่แปด                 พระราชวังและสวนเชินน์บรุน • ถนนคาร์ทเนอร์           (เช้า/กลางวัน/-)

เช้า                           บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเข้าชม พระราชวังและสวนเชินน์บรุน (Palace and Gardens of Schonbrunn) พระราชวังฤดูร้อนของราชวงศ์ฮับส์บวร์ค สร้างแบบบาโรก คำว่าเชินน์บรุน นั้น มีความหมายว่า น้ำพุร้อนอันแสนสวยงาม โดยมีการริเริ่มสร้างในช่วงปี ค.ศ. 1569 ตัวอาคารในปัจจุบันนั้นสร้างและต่อเติมในสมัยของพระนางมาเรีย เทเรซ่า โดยมีพระราชประสงค์ให้มีความยิ่งใหญ่และสวยงามทัดเทียมพระราชวังแวร์ซายน์ของราชวงศ์บูร์บง และด้วยพระองค์ทรงโปรดสีเหลืองมากจึงได้มีการใช้สีเหลืองโทนพิเศษตกแต่ง และต่อมาสีเหลืองโทนนี้นั้นจึงได้ชื่ออย่างเป็นทางการว่าสีเหลืองเทเรซ่า

กลางวัน      บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

จากนั้นนำท่านสู่ ถนนคาร์ทเนอร์ (Kartner Street) ถนนคนเดินแห่งแรกๆ ของยุโรป ที่มีมาตั้งแต่ในสมัยโรมัน เป็น 1 ใน ถนนที่มุ่งสู่กรงโรมในสมัยนั้น เป็นที่รู้จักกันในชื่อของ Strata Carinthianorum ก่อนจะถูกพัฒนามาเป็นถนนสายช้อปปิ้งในช่วงศตวรรษที่ 19 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 บ้านเรือนส่วนมากถูกทำลายทางการก็ได้สร้างตึกรามบ้านช่องที่รูปแบบเดิม

นอกจากนั้นยังมีศาสนสถานที่สำคัญบนถนนแห่งนี้อีกแห่งหนึ่ง คือ อาสนวิหารสเตฟาน (St. Stephen′s Cathedral) โบสถ์เก่าแก่ที่อยู่มาตั้งแต่ปี 1160 ตัวอาสนวิหารสร้างด้วยหินปูนมีความยาว 107 เมตร กว้าง 70 เมตร และ สูง 136.7 เมตร มีระฆังทั้งหมด 23 ใบ ใบใหญ่ที่สุดชื่อว่า ระฆังพุมเมริน ที่มีน้ำหนักถึง 20,130 กิโลกรัม ถือเป็นระฆังแบบแกว่งที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรีย และเป็นอันดับ 2 ของยุโรป รองจากระฆังปีเตอร์ ของเยรมันเท่านั้น กล่าวกันว่าบิโทเฟ่นรู้ตัวว่าตนสูญเสียการได้ยิน เพราะว่าเมื่อหันมองไปบนอาสนวิหารแห่งนี้แล้วเห็นนกบินออกจากหอระฆังแต่กลับไม่ได้ยินเสียงระฆังเหมือนเคย

เย็น                          อิสระอาหารเย็น เพื่อความสะดวกและไม่เป็นการรบกวนเวลาช้อปปิ้งของท่าน

จนกระทั่งได้เวลา พอสมควรนำท่านเดินทางสู่ สนามบินนานาชาติกรุงเวียนนา เพื่อทำการเช็คอิน และทำคืนภาษี (TAX REFUND)

21.55 น.              ออกเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยสายการบินเอมิเรตต์ เที่ยวบินที่ EK126 บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง

 

วันที่เก้า                   ดูไบ • สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ   (-/-/-)

06.35 น.              เดินทางถึง สนามบินนานาชาติดูไบ (เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง)

09.30 น.              เดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ  โดยสายการบินเอมิเรตต์ เที่ยวบินที่ EK 372

18.40 น.  เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม | จองทัวร์ โทร. 084-2261956, 087-0868527

Line id : tourjaidee