Top

ทัวร์สิงคโปร์ บินจากเชียงใหม่

ชื่อทัวร์ : ทัวร์สิงคโปร์ บินจากเชียงใหม่
สายการบิน : TIGERAIR
ระยะเวลา : 3 วัน 2 คืน
ราคาเริ่มต้น : 17,999 บาท
วันที่เดินทาง

08 – 10 ก.ค. 66
22 – 24 ก.ค. 66
26 – 28 ส.ค. 66
23 – 25 ก.ย. 66
30 ก.ย. – 02 ต.ค. 66
07 – 09 ต.ค. 66

รายละเอียดทัวร์

ทัวร์สิงคโปร์ เที่ยวสิงคโปร์ เชียงใหม่ไปสิงคโปร์

Singapore 3 วัน 2 คืน

พัก 3 ดาว  บินไทเกอร์

 

วันแรก                     ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ • สนามบินชางงี • น้ำพุแห่งความมั่งคั่ง • การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ • มารีน่า เบย์ แซนด์ • สะพานฮีลิกซ์ • โชว์ Wonder Full Light & Water Spectacular           (-/บนเครื่อง/เย็น)     

  • 08.30 น. พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ อาคารผู้โดยสารขาออก เคาน์เตอร์สายการบิน

SCOOT (TR) โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ทุกท่าน

  • 11.20 น. ออกเดินทางสู่ ประเทศสิงคโปร์ โดย เที่ยวบินที่ TR677 (รวมอาหารบนเครื่อง)
  • 15.20 น. เดินทางถึง สนามบินชางงี ประเทศสิงคโปร์ ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว(เวลาท้องถิ่นที่สิงคโปร์ เร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง กรุณาปรับเวลาของท่านเพื่อความสะดวกในการนัดหมาย)

 จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ น้ำพุแห่งโชคลาภ (ซันเทคซิตี้) สัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่งร่ำรวยใจกลางเมืองสิงคโปร์ ถือเป็นจุดรับพลังฮวงจุ้ยที่ดีที่สุด ตั้งอยู่ที่ Suntec City กลุ่มอาคารที่สร้างตามหลักฮวงจุ้ยทุกประการ มีทั้งหมด 5 อาคาร เปรียบเสมือนนิ้วมือทั้งห้า และใจกลางผ่ามือจะมีน้ำพุพวยพุ่งออกมา ซึ่งสายน้ำเปรียบเสมือนเงินที่อยู่ในกำมือ หากได้สัมผัสน้ำพุแห่งนี้ เชื่อกันว่าจะมีโชคลาภ มั่งคั่ง ร่ำรวย รวมถึงโชคดีตลอดปีและตลอดไป

“ทริคในการขอพร .. นำมือขวาสัมผัสสายน้ำ และอธิษฐาน 1 ข้อ (ขอให้ตัวเราเอง)  จากนั้นเดินวนตามเข็มนาฬิกา 3 รอบ เชื่อว่าคำอธิฐานนั้นจะเป็นผลสำเร็จ”

 

 นำท่าน ชมความมหัศจรรย์แห่งสวนที่ การ์ เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ สวนพฤกษศาสตร์ขนาดใหญ่ริมอ่าว
มารีน่า ภายในเต็มไปด้วยรายละเอียดแห่งความทันสมัย ความยิ่งใหญ่ และรวบรวมพรรณไม้นานาชนิดจากทั่วทุกมุมโลกกว่าล้านต้นไว้ในที่เดียว หากมองจากมารีน่าเบย์แซนด์จะสามารถมองเห็น ต้นซูเปอร์ทรีที่แสนวิเศษ ต้นไม้โครงเหล็กสีชมพูที่ตั้งตระหง่านอยู่ไม่ไกล เป็นสวนแนวตั้งที่ไม่ได้มีดีแค่ดีไซน์ที่โดดเด่นเท่านั้น เจ้าต้นไม้ยักษ์ยังเป็นแหล่งเก็บกักน้ำฝน ทำหน้าที่ผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ และเป็นเครื่องระบายอากาศสำหรับเรือนกระจกของสวนแห่งนี้ มีความสูงเทียบเท่าตึก 8 - 16 ชั้นเลยทีเดียว ใครที่ไม่กลัวความสูงสามารถขึ้นไปเดินเล่นบนทางเดินลอยฟ้า OCBC Skyway ระยะทาง 128 เมตร เชื่อมระหว่างซูเปอร์
ทรีสองต้น หรือสามารถชมวิวมุมสูงของสวนแห่งนี้ Super Tree Observatory ซึ่งอยู่บนจุดสูงสุดของซูเปอร์ทรีต้นที่สูงที่สุดในบรรดาซูเปอร์ทรีทั้ง 18 ต้น โดยอยู่สูงจากพื้นดิน 50 เมตร (ไม่รวมค่าขึ้น OCBC Skyway ราคา 8 SGD)

สวนแห่งนี้จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ สวนริมอ่าวทางใต้ สวนริมอ่าวทางตะวันออก และอ่าวกลาง แต่ละส่วนยังแบ่งออกเป็นส่วนย่อยต่างๆ อีก 7 โซน ได้แก่ Flower Dome, Cloud Forest, Supertree Grove, Heritage Gardens, Dragonfly & Kingfisher Lakes, Bay East Garden และ World of Plants ไฮไลท์ของสวนแห่งนี้ คือ Cloud Forest ที่มี Cloud Mountain (ภูเขาสูงเทียมเมฆ) สูงตระหง่านกว่า 35 เมตร ปกคลุมด้วยกล้วยไม้ เฟิร์น และสับปะรดสี ภายในมีน้ำตกในร่มที่สูงถึง 30 เมตร และ Flower Dome จำลองภูมิอากาศแบบแห้ง และเย็นของภูมิภาคต่าง ๆ เช่น แคลิฟอร์เนียและแอฟริกาใต้ ที่นี่มีพืชพันธุ์มากกว่า 32,000 ต้น โดยประกอบด้วยพันธุ์พืชกว่า 160 ชนิด ทั้งสองโดมถูกบันทึกสถิติโดยโลกกินเนสส์เมื่อปี 2015 ในฐานะเป็นเรือนกระจกติดแอร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก (ไม่รวมค่าเข้า Flower Dome & Cloud Forest ราคา 20 SGD ต่อโดม)

 

 จากนั้น เดินทางไปยัง อ่าวมารีน่า จุดศูนย์รวมแลนด์มาร์คสำคัญๆ ของประเทศสิงคโปร์ ย่านหรูที่เต็มไปด้วยตึกระฟ้า โรงแรมมีระดับ และศูนย์การค้าอันหรูหราอย่าง มารีน่า เบย์ แซนด์ อาคารที่โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์เรือลอยอยู่บนตึก 3 หลัง ถือเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้นๆ ที่ใครมาเยือนสิงคโปร์ต้องมาที่นี่ ภายในประกอบไปด้วยศูนย์อาหาร ศูนย์ประชุม พื้นที่จัดนิทรรศการ โรงภาพยนตร์ สถานบันเทิง ภัตตาคาร และร้านค้าต่างๆ

ด้านบนของตึกมีจุดชมวิวขนาดมโหฬาร Marina Bay Sands SkyPark ที่ลอยอยู่เหนืออาคารสูงลิ่วสามหลังของโรงแรม สามารถชมวิวทิวทัศน์แบบกว้างไกล 360 องศาของเส้นขอบฟ้าสิงคโปร์ ซึ่งดาดฟ้าสูงที่ท้าทายแรงโน้มถ่วงนี้เป็นดาดฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่นี่ยังประกอบไปด้วยสวนหย่อมเขียวขจี ภัตตาคารชั้นเลิศ และสระว่ายน้ำลอยฟ้า (Rooftop Infinity Pool) พร้อมวิวที่สวยงามสุดแสนประทับใจ (ไม่รวมค่าขึ้นจุดชมวิว Sand Sky Park ราคา 23 SGD)

เย็น >> บริการอาหารเย็น ณ ร้านอาหาร เมนูยอดนิยม “บักกุ๊ดเต๋” @ SONG FA

 ถ่ายรูปคู่สะพานรูปเกลียวคู่แห่งแรกของโลก สะพานฮีลิกซ์ สะพานรูปทรงแปลกตาที่ทอดตัวข้ามผ่านอ่าวมารีน่า ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากโครงสร้างดีเอ็นเอของมนุษย์ ตัวสะพานถูกคุมโทนด้วยสีฟ้าของกระจกตัดกับแสงอาทิตย์ดูสดใสในตอนกลางวัน ส่วนตอนกลางคืนตัวสะพานเหล็กที่ถูกบิดเป็นเกลียวนั้นจะถูกประไฟวิบวับสวยงาม

20.00 น.                   ชมการแสดงโชว์ แสง สี เสียง และน้ำพุสุดอลังการ Wonder Full – Light & Water Spectacular เป็นการแสดงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

 พักที่ IBIS BUDGET SINGAPORE SELEGIE หรือเทียบเท่าระดับ 3 ดาว** ของมาตราฐานสิงคโปร์

(โรงแรมที่ระบุในรายการทัวร์เป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน)

วันที่สอง                  อิสระท่องเที่ยว 1 วัน (Free Day & No Service) (เช้า/-/-)

 เช้า >> บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

อิสระท่องเที่ยวตามอัธยาศัย (ไม่มีบริการรถรับส่ง) สามารถเลือกซื้อบัตรสวนสนุกยูนิเวอร์แซลแบบ One Day Trip หรือเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจ โดยมีหัวหน้าทัวร์ให้คำแนะนำในการเดินทางท่องเที่ยว

OPTION A : สวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์

*กรณีลูกค้าต้องการเดินทางไปเกาะ เซ็นโตซ่า หัวหน้าทัวร์จะไปส่งโดยรถสาธารณะ นักท่องเที่ยวชำระค่าเดินทางเอง *

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ

  • สวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ Universal Studios Singapore (USS) เป็นสวนสนุกในธีมหนังและการ์ตูนจากค่าย Universal Studios แห่งแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งอยู่ใน Resorts World Sentosa บนเกาะ Sentosa แหล่งรวมสถานที่เที่ยวและความบันเทิงเอาไว้ ซึ่งภายในสวนสนุกแห่งนี้เค้าได้รวบรวมเอามาทั้งธีมฉาก และเครื่องเล่นเอาไว้เพียบ โดยแบ่งออกเป็นทั้งหมด 6 โซน คือ Hollywood, New York, Sci-Fi City, Ancient Egypt, The Lost World และ Far Far Away (ไม่รวมบัตรเข้าสวนสนุก กรุณาติดต่อแผนกSALEอีกครั้งเพื่อเช็คราคา)

โซน 1 : Hollywood                                  เป็นโซนแรกที่เราต้องเดินผ่านเมื่อไปถึง ซึ่งเป็นโซนร้านค้าต่างๆ ทั้ง Universal Studios Store ขายของที่ระลึกรวมตัวการ์ตูนจากโซนต่างๆ และก็ยังมีร้านอาหาร คาเฟ่ อีกด้วย

โซน 2 : New York                                    เป็นโซนที่ทำให้รู้สึกเหมือนเป็น New Yorker ตลอดเวลาที่เดินผ่านและดื่มด่ำกับบรรยากาศอันครื้นเครง 

โซน 3 : Sci-Fi City                                  มาในธีมแห่งอวกาศที่มาจากหนังเรื่องดังอย่าง  ทรานฟอร์เมอร์  (Transformers) เครื่องเล่นที่ห้ามพลาดคือ The Ride: The Ultimate 3D Battle  และ Battlestar Galactica: HUMAN

โซน 4 : Ancient Egypt                            มาในธีมดินแดนโบราณของอียิปต์จากหนังเรื่อง The Mummy  เครื่องเล่นที่ห้ามพลาดอันได้แก่ Revenge of the Mummy

โซน 5 :  The Lost World                         เป็นโซนแห่งเมืองดึกดำบรรพ์ยุคไดโนเสาร์ที่จำลองมาจากภาพยนตร์เรื่องจูรา
สสิกปาร์ค (Jurassic Park) เครื่องเล่นทางน้ำไฮไลท์ในโซนนี้ คือ Jurassic Park Rapids สำหรับคนที่จะเล่นเครื่องเล่นทางน้ำจะต้องเตรียมเสื้อผ้าไปเปลี่ยน

 

 

โซน 6 : Far Far Away                              เป็นที่ตั้งของปราสาทขนาดใหญ่สุดอลังการความสูงถึง 40 เมตร  ที่จำลองมาจากแอนิเมชั่นเรื่อง Shrek โดยภายในโซนนี้ มีเครื่องเล่นแอนิเมชั่น 4D ที่เล่าเรื่องราวการผสมภัยของ Sherk ผ่านประสบการณ์การสัมผัสจริงแบบ 4D ทั้งแสง  สี เสียง ลม และน้ำ อย่างเครื่องเล่น Shrek 4-D Adventure

 

 

 หากต้องการถ่ายรูปกับแลนด์มาร์คของเกาะเซนโตซ่าอย่าง ลูกโลก Universal Studio สามารถแวะไปถ่ายรูปเป็นที่ระลึกได้ (โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) สำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้าไปเล่นเครื่องเล่นภายในสวนสนุก ควรเตรียมขวดน้ำเปล่าขนาดเล็กติดตัวไปด้วย เพื่อใช้เติมน้ำดื่มจากจุดต่างๆ ที่มีให้บริการ นอกจากนี้ควรพกเสื้อกันฝนติดตัวไป เนื่องจากการเล่นเครื่องเล่นบางชิ้น อาจจะทำให้เปียกน้ำที่กระเซ็น

 

 

OPTION B : อิสระท่องเที่ยว

***ไม่มีรถและไกด์บริการ***

**อิสระท่องเที่ยวตามอัธยาศัย โดยสอบถามข้อมูลการเดินทางจากหัวหน้าทัวร์**

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ

  • ย่านลิตเติ้ลอินเดีย (Little India) หนึ่งย่านที่มีสีสันมากที่สุดในสิงคโปร์ ในย่านนี้จะพบเห็นศาสนสถานหลายแห่งทั้งวัดฮินดู วัดจีน มัสยิด และโบสถ์ต่างๆ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการผสมผสานของวัฒนธรรม อิ่มท้องด้วยอาหารมังสวิรัติแบบอินเดียใต้ ทันดูรีของอินเดียเหนือ และอาหารท้องถิ่น เช่น โรตีปราตา และเตะห์ ตาริก (ชาชักแบบมาเลย์) ลองชิมชาชัก หรือชานมร้อนที่มีวิธีการชงที่น่าสนใจมาก
  • ย่านท่าเรือคลาร์กคีย์ / ท่าเรือโบ๊ทคีย์ (Clarke Quay & Boat Quay) ย่านริมน้ำที่ขึ้นชื่อว่าเป็นศูนย์กลางของการพบปะสังสรรค์ของชาวสิงค์โปร์ สถานที่ฟังดนตรีสดก็น่าสนใจไม่น้อย อาจจะเริ่มต้นที่บาร์ Crazy Elephant ในย่าน Clarke Quay เพื่อฟังเพลงบลูส์ และปิดด้วย Cuba Libre Café & Bar เพื่อฟังดนตรีสไตล์ละติน หากต้องการเปลี่ยนบรรยากาศลองแวะไปที่ย่านแอนเซียงและคลับสตรีท (Ann Siang Hill & Club Street) ที่นี่เต็มไปด้วยบาร์และร้านอาหาร สถานที่ที่เป็นกันเองแห่งนี้ได้รับความนิยมในบรรดากลุ่มนักดื่มหลังเลิกงาน
  • ย่านไชน่าทาวน์ (China Town) หนึ่งในย่านที่เต็มไปด้วยร้านอาหารอร่อยๆ มากมาย ตั้งแต่ร้านคาเฟ่สุดฮิป ไปจนถึงแผงขายอาหารท้องถิ่นที่เสิร์ฟอาหารอร่อยๆ ที่ขึ้นชื่อมานาน หากต้องการลิ้มลองอาหารหลากหลายแบบ ลองแวะไปที่ศูนย์อาหาร Chinatown Complex Market & Food Centre ศูนย์อาหารแห่งนี้มีแผงขายอาหารมากกว่า 200 แห่ง ซึ่งมีตั้งแต่ขนมหวานไปจนถึงอาหารสิงคโปร์ที่อร่อยถูกใจ

   

  • สิงคโปร์ ฟลายเออร์ (Singapore Flyer) ชิงช้าขนาดใหญ่ที่ติดหนึ่งในชิงช้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก หากนั่งชิงช้าสวรรค์นี้ในยามเย็นจะได้ชมวิวทิวทัศน์ของเมืองที่เต็มด้วยแสงไฟระยิบระยับ อีกทั้งการแสดงแสงเลเซอร์ตระการตาของ มารีน่า เบย์ แซนด์ อีกด้วย
  • วัดศรีมาริอัมมัน (Sri Mariamman Temple) วัดฮินดูที่เก่าแก่ที่สุดในสิงคโปร์ ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางชุมชนชาวฮินดู และได้รับการสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้แก่เจ้าแม่มาริอัมมัน สร้างขึ้นในรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบดราวิเดียน ประดับตกแต่งด้วยรูปเทพเจ้าในศาสนาฮินดู และสัตว์ในตำนาน
  • วัดเทียนฮอกเกี่ยน (Thian Hock Keng Temple) หรือ “วัดแห่งความสุขบนสรวงสวรรค์” เป็นวัดจีนที่เก่าแก่ที่สุดในสิงคโปร์ ตื่นตาตื่นใจไปกับสถาปัตยกรรมสไตล์ฝูเจี้ยนที่มีเอกลักษณ์ของวัด ซึ่งมีจุดเด่นต่างจากสถาปัตยกรรมอื่นตรงรูปปั้นมังกรและเทพเจ้าที่มีรายละเอียดมาก

   

จุดเช็คอินที่สายท่องเที่ยวเชิงอินสตาแกรมต้องไปโดน

  • Marina Barrage พื้นที่เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจที่สมบูรณ์แบบ เหมาะสำหรับครอบครัวและเพื่อนฝูง เป็นเขื่อนที่ไม่ใช่เขื่อนธรรมดาๆ ด้านบนมีสวนลอยฟ้าที่เป็น Hidden gems แห่งใหม่ของสิงคโปร์ วิวสวยมากสามารถมองเห็นสัญลักษณ์ของสิงคโปร์ได้ ไม่ว่าจะเป็นตึก Marina Bay Sands, Gardens by the Bay, Singapore Flyer ในมุมที่สวยแปลกตามาก
  • MICA Building อาคารหน้าต่างสีรุ้งที่ถูกออกแบบในสไตล์ที่เรียกว่า นีโอคลาสสิค อาคารเก่าแก่หลังใหญ่ถูกนำมารีโนเวทใหม่ มีการทาสีที่บานหน้าต่างไม้ของอาคารด้วยสีสดๆ แตกต่างกัน ตัวอาคารมีทั้งหมด 6 ชั้น แต่ละชั้นจะมีหน้าต่างเรียงรายในขนาด และรูปทรงเท่าๆ กันจำนวน 927 บานด้วยกัน

 

  • The Hive หรือ ตึกติ่มซำ ตึกที่ดีไซน์ได้ทันสมัยสุดๆ รูปหน้าตาออกไปทางเข่งใส่ติ่มซัมวางซ้อนๆ กัน ภายในเป็นอาคารเรียนของนักศึกษา ซึ่งเป็นตึกที่ตั้งอยู่ภายใน Nanyang Technological University หรือ NTU ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสิงคโปร์และดีที่สุดอันดับต้น ๆ ของทวีปเอเชีย ติด 1 ใน 10 ของสถานที่ยอตฮิตที่ต้องมาถ่ายลงอินสตราแกรมของสิงคโปร์
  • Future World: Where Art Meet Science นิทรรศการศิลปะที่ผสมผสานกับเทคโนโลยีอินเทอร์แอคทีฟอย่างน่าประทับใจบนพื้นที่ 1,500 ตารางเมตร แบ่งออกเป็น 5 โซน ประกอบด้วย Nature, Town, Sanctuary, Park และ Space พบกับความมหัศจรรย์ในรูปแบบต่างๆ สนุกและตื่นเต้นกับงานศิลปะจนต้องร้องว้าว (ราคาบัตร: ผู้ใหญ่ 17 SGD เด็ก 10 SGD)
  • Raffles Marina Lighthouse หรือประภาคารราฟเฟิลมารีน่า แลนด์มาร์คชมวิวพระอาทิตย์ตกดินแห่งใหม่ ถ่ายรูปมุมสวยๆ ของท้องทะเล แชะภาพกับตัวประภาคารเป็นที่ระลึก พร้อมสัมผัสกับแสงยามเย็นได้ฟรีๆ

   

การเดินทางท่องเที่ยวโดยรถสาธารณะ

สิงคโปร์เป็นเกาะเล็กๆ สามารถเดินทางได้ง่ายโดยไม่ต้องกลัวหลงทาง ด้วยระบบระบบขนส่งมวลชนหลักของที่นี่ SMRT (Singapore Mass Rapid Transit) ใช้เรียกรวมทั้งระบบรถไฟฟ้าหลัก MRT รถไฟฟ้ารางเบา LRT รวมไปถึงรถโดยสารประจำทาง และรถแท็กซี่ ซึ่งมีอยู่ครอบคลุมทั่วทั้งเกาะสิงคโปร์ หรือโหลดแอพพลิเคชั่น Singapore Transport Maps เพื่อทำให้การค้นหาง่ายยิ่งขึ้นไปอีก ในปัจจุบันประกอบด้วยรถไฟฟ้า MRT 6 สาย และรถไฟฟ้า LRT อีก 3 สาย ได้แก่

  • สายสีเขียว หรือ East West Line
  • สายสีแดง หรือ North South Line
  • สายสีม่วง หรือ North East Line
  • สายสีส้ม หรือ Circle Line
  • สายสีน้ำเงิน หรือ Downtown Line
  • สายสีน้ำตาล หรือ Thomson East Coast Line

 พักที่ IBIS BUDGET SINGAPORE SELEGIE หรือเทียบเท่าระดับ 3 ดาว** ของมาตราฐานสิงคโปร์

(โรงแรมที่ระบุในรายการทัวร์เป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน)

วันที่สาม                  อุโมงค์ต้นไม้ฟอร์ทแคนนิ่ง • วัดพระธาตุเขี้ยวแก้ว • เมอร์ไลอ้อน • น้ำตกจีเวล • สนามบินชางงี • ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่          (เช้า/-/บนเครื่อง)

 เช้า >> บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

 จากนั้น เยือนอดีตป้อมปราการสู่ปอดสีเขียวใจกลางมหานครสิงคโปร์ อุโมงค์ต้นไม้ฟอร์ทแคนนิ่ง
(Tree Tunnel) ถือเป็นแลนมาร์คแห่งใหม่ และเป็นจุดถ่ายรูปสุดฮิปที่ชาวอินสตราแกรมทุกคนจะต้องมา ด้วยทั้งแสงทั้งมุมที่สุดแสนจะลงตัว จึงเป็นมุมมหาชนที่ทุกคนต้องมาโพสท่าอวดลงบนโลกโซเชียล

 

 

 จากนั้น เดินทางไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุ ณ วัดพระธาตุเขี้ยวแก้ว วัดสำคัญที่ตั้งอยู่ใจกลางย่าน
ไชน่าทาวน์ มีความสวยงามอลังการตามรูปแบบสถาปัตยกรรมจีนสมัยราชวงศ์ถัง ซึ่งแสดงถึงจักรวาลตามคติพุทธ วัดพุทธที่งดงามแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานของพระสารีริกธาตุ และเอกสารอันเป็นภูมิปัญญาของพระพุทธเจ้า รวมทั้งยังเป็นสถานที่ๆ รวบรวมโบราณวัตถุที่ควรค่าแก่การเคารพสักการะ วัดพระเขี้ยวแก้วมีทั้งหมด 9 ชั้น แต่เปิดให้ชมเพียงบางชั้นเท่านั้น ซึ่งบริเวณชั้น 4 จะเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนพระทันตธาตุซ้ายของพระพุทธเจ้า

 นำทุกท่านเดินทางสู่ ไฮไลท์ที่ห้ามพลาดอีกหนึ่งอย่างคงหนีไม่พ้น การถ่ายรูปคู่กับเจ้าสิงโตพ่นน้ำ เมอร์ไลอ้อน ที่ตั้งโดดเด่นอยู่บริเวณริมอ่าวมารีน่า หนึ่งในสัญลักษณ์แห่งประเทศสิงคโปร์

 

 

ได้เวลาสมควร        นำท่านเดินทางสู่สนามบินชางงี

เยี่ยมชมน้ำตกอินดอร์ที่สูงที่สุดในโลก น้ำตกจีเวล ในสนามบินชางงีของสิงคโปร์ โดยตั้งอยู่ในอาคารแห่งใหม่ จีเวล ชางงี แอร์พอร์ต (Jewel Changi Airport) ภายในสร้างสวน และน้ำตกอินดอร์ขนาดใหญ่ The Rain Vortex มีความสูงถึง 130 ฟุต ซึ่งถือเป็นน้ำตกอินดอร์ที่สูงที่สุดในโลกไว้ในสนามบิน โดยใช้น้ำหมุนเวียน 50,000 ลิตร ลักษณะอาคารรูปทรงโดม ได้รับการออกแบบโดยกลุ่มสถาปนิกชั้นนำของโลก ผสมผสานผลงานทางศิลปะเข้ากับธรรมชาติได้อย่างลงตัว

  • 15.05 น. ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศนานาชาติเชียงใหม่ โดย เที่ยวบินที่ TR674 (รวมอาหารบนเครื่อง)
  • 17.05 น. เดินทางถึงเชียงใหม่ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม