แม่ฮ่องสอน ปางอุ๋ง บ้านรักไทย
เดินทาง 2 ท่านขึ้นไป
วันนี้ - มกราคา 2564
ทัวร์แม่ฮ่องสอน ปางอุ๋ง บ้านรักไทย
(แพ็กเกจเดินทางได้ตั้งแต่ 2 ท่านขึ้นไป !!)
กำหนดการเดินทาง: กันยายน 63 – มกราคม 64
วันแรก กรุงเทพฯ – เชียงใหม่ - แม่ฮ่องสอน – แวะถ่ายรูป COFFEE IN LOVE ปาย
สักการะขอพรพระธาตุดอยกองมู – ชมวิวพระอาทิตย์ลับฟ้า– เข้าที่พัก
.......น. เดินทางถึง สนามบินเชียงใหม่ หลังจากรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว นำท่านเดินทางสู่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ( ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง )
เที่ยง อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
จากนั้นนำท่านเดินทางไป “Coffee In Love” ร้านกาแฟสวยๆ บนยอดเขาที่สามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ท่ามกลางความโรแมนติกของการตกแต่งร้านสไตล์ยุโรป
ใครมาเที่ยวปายก็มักจะต้องแวะมาถ่ายรูปที่ร้านกาแฟแห่งนี้ จนกลายเป็นจุดนัดพบที่นักท่องเที่ยวต้องแวะมาเก็บภาพประทับใจกันทุกปี เพราะที่นี่มีมุมถ่ายรูปสวยๆ เอาใจคนชอบถ่ายรูปกันเลยทีเดียว
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางไป “พระธาตุดอยกองมู” เป็นปูชนียสถาน ประกอบด้วย พระธาตุเจดีย์ ศิลปะไทใหญ่-พม่า จำนวน 2 องค์ จากวัดพระธาตุดอยกองมูนี้ สามารถมองเห็นภูมิประเทศและสภาพตัวเมืองแม่ฮ่องสอนได้อย่างชัดเจน นอกจากเห็นตัวเมืองแม่ฮ่องสอนใน
มุมสูงได้ครอบคลุมแล้วยังเห็นแนวเทือกเขาถนนธงชัยสูงตระหง่านเป็นฉากหลังด้านทิศตะวันออกได้อย่างงดงามจนมีนักเดินทางหลายคนบอกว่า “ถ้าไม่มาพระธาตุดอยกองมูเนี่ย ถือว่ายังมาไม่ถึงแม่ฮ่องสอน”จากนั้นนำท่าน ชมพระอาทิตย์ตกดิน ช่วงนี้สามารถเก็บแสงเย็นพร้อมกับเห็นตัวเมืองแม่ฮ่องสอนแบบ180 องศา ท่านจะได้สัมผัสความงดงามยามพระ อาทิตย์ตกของเมืองแม่ฮ่องสอน
เย็น อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรมในตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ระดับ 4 ดาว ( ห้องพัก 2-3 ท่าน )
วันที่สอง ตักบาตรพระสงฆ์ที่สะพานซูตองเป้ - เดินชมตลาดเช้า - วัดจองคำ
ชมหมู่บ้านกระเหรี่ยงคอยาว บ้านห้วยเสือเฒ่า - ปางอุ๋ง - หมู่บ้านรักไทย
05.00 น. จากนั้นนำท่านไปตักบาตรตอนเช้า ที่ “สะพานซูตองเป้” นับว่าเป็นสะพานไม้ไผ่ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย โดยมีความกว้าง 2 เมตร ยาวประมาณ 600 เมตร สะพานซูตองเป้ สร้างขึ้นด้วยแรงศรัทธาของพระภิกษุ สามเณร และชาวบ้าน โดยไม่ใช้งบประมาณของทางราชการ วัสดุที่ใช้หาได้ในท้องถิ่น เสาจากไม้เก่าของชาวบ้านปูพื้นด้วยไม้ไผ่ ทอดยาวจากสวนธรรมภูสมะถึงหมู่บ้านกุงไม้สัก ผ่านลำน้ำแม่สะงา ผ่านทุ่งนาของชาวบ้าน เพื่อให้พระภิกษุสามเณรออกรับบิณฑบาต ถือเป็นสะพานไม้แห่งศรัทธา คำว่า “ซูตองเป้” (Su-Tong-Pe) นั้นเป็นภาษาไทยใหญ่ แปลว่า อธิษฐานสำเร็จ สะพานแห่งนี้จึงเป็นเหมือนตัวแทนแห่งคำอธิษฐานสำเร็จ (พระสงฆ์จะบิณฑบาตบนสะพานทุกเช้าเวลา 6.30 -7.30 น.)
จากนั้นนำท่านไปเดินชม “ตลาดเช้าแม่ฮ่องสอน” ให้ท่านได้สัมผัสบรรยากาศตลาดเช้าของชาวแม่ฮ่องสอน ที่จะมีอาหารเช้าให้เลือกทาน อาทิ โจ๊ก ต้มเลือดหมู ไข่กระทะ หรือกาแฟโบราณ อีกทั้งด้านหน้าตลาดก็จะมีชาวเขามาขายผัก ขายของป่า อีกโซนหนึ่งของตลาดเช้าจะ
เป็นโซนอาหารแบบชาวบ้านมากินกัน ใครมาแม่ฮ่องสอนแล้วยังไม่ได้ลองทานอาหารแบบชาวเขาชาวไทยใหญ่ ถือว่ามาไม่ถึงจริงๆ อิสระอาหารเช้าตามอัธยาศัยเพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาในการเดินเล่นของท่าน นำท่านไปสักการะขอพรเป็นสิริมงคล “วัดจองคำ”เป็นวัดที่ถูกสร้างขึ้นเป็นแห่งแรกของจังหวัดแม่ฮ่องสอน และอยู่คู่เมืองสามหมอกมานานนับร้อยปีจนได้รับการสถาปนาให้เป็นพระอารามหลวงเมื่อปี พ.ศ. 2527 ใกล้ๆ กับวัดจองคำมีวัดอีกแห่งหนึ่ง ที่สร้างขึ้นไว้อยู่เคียงคู่กัน ได้แก่ “วัดจองกลาง”วัดทั้งสองแห่งนี้มีลักษณะคล้ายกับวัดแฝดเนื่องจากตั้งอยู่ภายในเขตกำแพงแก้วเดียวกัน โดยเมื่อเราหันหน้าเข้าหาตัววัดก็จะเห็น “วัดจองกลาง” อยู่ทางด้านขวามือ และ “วัดจองคำ” อยู่ทางด้านซ้ายมือ
จากนั้นพาท่านเดินทางไปยัง “หมู่บ้านกระเหรี่ยงคอยาว บ้านห้วยเสือเฒ่า” ตั้งอยู่ที่ตำบลผาบ่อง ห่างจากตัวเมืองประมาณ 6 กิโลเมตร ธรรมชาติโดยรอบจะเป็นป่าไม้ร่มรื่น ระหว่างทางผ่านบรรยากาศที่งดงามด้วยต้นไม้และฝายทดน้ำที่มีน้ำล้นหลายฝาย เพื่อชมวิถีชีวิตของกระเหรี่ยงคอยาว เลือกซื้อของที่ระลึกต่างๆ ชิมมันเผา ข้าวโพดย่าง ซึ่งมีรสชาติหวานอร่อย ที่น่าสนใจ คือ การแต่งกายของกะเหรี่ยงคอยาว และชาวเขาเผ่าต่างๆ ที่มีเอกลักษณ์น่าสนใจ
เที่ยง อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
จากนั้นนำท่านเดินทางไปยัง “ปางอุ๋ง”มีชื่อเรียกเต็มๆว่า โครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง)มีสภาพภูมิประเทศเป็นทิวเขาสูงสลับซับซ้อน ภูมิทัศน์ที่เป็นไฮไลท์จนถูกขนานนาม
ว่าสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทยก็คือ อ่างเก็บน้ำหรือทะเลสาบตรงกลางที่ล้อมรอบไปด้วยป่าสนสองใบ สนสามใบและดอกไม้เมืองหนาว ช่วงเช้าๆ จะเห็นหมอกหนาลอยอยู่เรี่ยผืนน้ำ มีหงส์ขาวและหงส์ดำเป็นฉากหลัง อากาศเย็นสบาย จากนั้นเดินทางไป “บ้านรักไทย”ที่นี่เป็นหมู่บ้านชาวจีนยูนนานที่อพยพมาอยู่ ในหมู่บ้านยังคงวัฒนธรรมแบบจีนอย่างเหนียวแน่น มีความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย และมีอาหารการกินแบบจีนยูนนาน มีบ้านเรือนที่ทำจากดินให้ได้ชม ผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อของหมู่บ้านนี้จะเป็นชา เช่น ชาชิง ชิง ชาอู่หลง เนื่องจากว่าในบริเวณนี้อากาศหนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปี สามารถปลูกชาและพืชเมืองหนาวได้ดี นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวบ้านรักไทยในตอนเช้าและมักจะจัดเป็นโปรแกรมถัดจากปางอุ๋ง เนื่องจากสองที่นี้ไม่ไกลจากกันมาก ถ้ามาถึงบ้านรักไทยช่วงที่ไม่สายมากจะมองเห็นหมอกอยู่เหนือทะเลสาบและปกคลุมในหมู่บ้าน คล้ายกับที่ปางอุ๋ง
เย็น อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรมในหมู่บ้านรักไทย ( ห้องพัก 2-3 ท่าน )
วันที่สาม น้ำตกผาเสื่อ - ถ้ำปลา - ซื้อของฝาก – สนามบินเชียงใหม่ - กรุงเทพ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (1)
นำท่านเดินทางไป “น้ำตกผาเสื่อ” เป็นน้ำตกขนาดไม่ใหญ่มากนัก แต่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี ต้นทางน้ำตกมาจากแม่น้ำสะงา ไหลลงมาเป็นม่านน้ำขนาดใหญ่ลงสู่แอ่งน้ำด้านล่างแต่กระแสน้ำไม่นิ่งไม่เหมาะกับการลงเล่นน้ำ น้ำตกผาเสื่อแห่งนี้เราจึงสามารถพบฝูงปลาว่ายเวียนไป เพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับน้ำตกผาเสื่อแห่งนี้
จากนั้นนำท่านไป “ถ้ำปลา”ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขามีลักษณะเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ กว้างประมาณ 2 เมตร ลึก 1.50 เมตร ภายในแอ่งน้ำมีน้ำไหลออกจากถ้ำใต้ภูเขาอยู่ตลอดเวลา จึงเป็นสถานที่ที่มีความพิเศษ แตกต่างไปจากสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ เนื่องจากว่าภายในถ้ำมีความมหัศจรรย์อยู่อย่างหนึ่ง ก็คือ บรรดาหมู่ปลาจำนวนมากที่มาอยู่อาศัยในถ้ำ ปลาตัวโตๆ ที่อาศัยอยู่ในถ้ำปลา จำนวนมากนั้นคือ ปลามุง ปลาคัง หรือปลาพลวง เป็นปลามีเกล็ดขนาดใหญ่ในวงศ์เดียวกับปลาคาร์ฟ และถึงแม้จะมีอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ก็ไม่มีใครกล้าทำอันตราย เนื่องจากมีความเชื่อว่าเป็นปลาเจ้า หากใครนำไปรับประทานแล้วจะต้องมีอันเป็นไป ปัจจุบันบริเวณอุทยานถ้ำปลาได้รับการปรับปรุง เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักแวะมาพักผ่อนที่วนอุทยานฯแห่งนี้จากนั้นนำท่านไปแวะซื้อของฝาก ของที่ระลึก
เที่ยง – เย็น อิสระอาหารตามอัธยาศัย (เพื่อให้ท่านได้เลือกซื้อของฝากตามอัธยาศัย)
.......น. ได้เวลาสมควรแก่การเดินทางสู่ สนามบินเชียงใหม่ ( ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง )
...... น. เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ