Top

ทัวร์จอร์แดน Jordan

ชื่อทัวร์ : ทัวร์จอร์แดน Jordan
สายการบิน : OMAN AIR
ระยะเวลา : 7 วัน 4 คืน
ราคาเริ่มต้น : 49,888 บาท
วันที่เดินทาง

25 - 31 ม.ค. 63
8 - 14 ก.พ. 63
7 - 13 มี.ค. 63
28 มี.ค. - 3 เม.ย. 63
4 - 10 เม.ย. 63
9 - 15 เม.ย. 63
11 - 17 เม.ย. 63

รายละเอียดทัวร์

ทัวร์จอร์แดน เที่ยวจอร์แดน ไปจอร์แดน ตั๋วไปจอร์แดน จอร์แดนราคาถูก

โปรแกรมทัวร์จอร์แดน โดยสายการบินโอมานแอร์

สัมผัสหนึ่งในประเทศศูนย์กลางแห่งมิตรภาพแห่งตะวันออกกลางราชอาณาจักรฮัชไมต์จอร์แดน ดินแดนศักดิ์สิทธิ์สถานที่โมเสสที่เสียชีวิตและแหล่งอารยธรรมหัวเมืองเอกของอาณาจักรโรมันอันยิ่งใหญ่กว่า 2,000 ปี เพตรา ทะเลสาบเดดซี และเมืองโบราณอีกมากมายให้ท่านได้ดูได้ชม อีกทั้งบรรยากาศทางการเมืองในประเทศก็สงบและเต็มไปด้วยสันติภาพ เป็นประเทศที่มีความน่าสนใจในอารยธรรมต่างๆ ยิว กรีก โรมัน อาหรับ อิสลามและออตโตมัน ข้อดีของโปรแกรม WONDERFUL JORDAN BY WY (Oman Air) เดินทาง 7วัน 5 คืน ต่อเครื่องที่โอมาน เที่ยวครบทุกสถานที่ไฮไลท์ ต่อเครื่องได้พัก ไม่เหนื่อยมาก

วันแรก (-/-/-)     สนามบินสุวรรณภูมิ- โอมาน MCT - อัมมาน     AMM

11.00 น.คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ หน้าเคาน์เตอร์ สายการบิน OMAN AIR ชั้น 4 แถวQ

พร้อมเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ของบริษัทฯคอยให้การต้อนรับ

14.20 น.Qออกเดินทางสู่มัสกัต MCT โดยสายการบิน OMAN AIR เที่ยวบินที่ WY812

(บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) ที่นั่งบนเครื่อง 3-3-3

17.40 น.เดินทาง ถึงสนามบินประเทศโอมาน (MCT มัสกัต) (ใช้เวลาในการเดินทาง 6 ชั่วโมง)

เวลาที่มัสกัต ช้ากว่าไทย -3 ชั่วโมง  (แวะเปลี่ยนเครื่อง 2 ชั่วโมง 50 นาที สู่อัมมาน )

21.45 น. Qออกเดินทางสู่ AMM (อัมมาน ควีนอาเลีย) โดยสายการบิน OMAN AIR เที่ยวบินที่ WY411

(ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง 50 นาที) มีแซนวิส น้ำผลไม้ กาแฟ ชา ให้บริการบนเครื่อง

23.40 น.คณะเดินทางถึง สนามบินนานาชาติ QUEEN ALIA ณ กรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน

หลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือแล้ว จะมีเจ้าหน้าที่ด้าน  VISA มาคอยอำนวยความสะดวกแก่คณะทัวร์

(เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง)

หลังจากรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว ออกจากประตูไป ทางด้านซ้ายมือ ท่านสามารถแลกเงิน,ซื้อSIM INTERNET ได้เลย

ราคา ณวันที่ 6 JUN 18 ล่าสุด // ราคาขึ้นอยู่กับ GB ความแรงของเน็ต

-INTERNET BUNDLE  6GB = 17 USD , 12GB = 19 USD , 18GB = 22 USD

หลังจากนั้น นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก (แวะซื้อของที่ ซุปเปอร์มารเก็ต ก่อนเข้าสู่โรงแรมที่พัก )

นำท่านเข้าพักโรงแรม ระดับ 4 ดาว SADEEN AMMAN HOTEL@AMMAN หรือเทียบเท่า 

 

วันที่สอง (B/L/D)    อัมมาน – เจอราช- อัจลุน– เพตรา       

เช้า      บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

เช้านี้นำท่านเดินทางสู่นครเจอราช

ชมนครเจอราช(JERASH)หรือเมืองพันเสาเป็นอดีต 1 ใน 10 หัวเมืองเอกตะวันออกอันยิ่งใหญ่ของอาณาจักรโรมัน สันนิษฐานว่าเมืองนี้น่าจะถูกสร้างในราว 200 – 100 ปีก่อนคริสตกาล เดิมทีในอดีตเมืองแห่งนี้ชื่อว่า ในปี ค.ศ. 749

นครแห่งนี้ได้ถูกแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทำลาย และถูกฝังกลบโดยทรายหลังจากนั้นก็ได้สูญหายไปเป็นนับพันปี 

 

ชมซุ้มประตูกษัตรย์เฮเดรียนและสนามแข่งม้าฮิปโปโดรม นำท่านเดินเข้าประตูทางทิศใต้ชม โอวัลพลาซ่า สถานที่ชุมนุม พบปะ สังสรรค์ของชาวเมือง, วิหารเทพซีอุสฯลฯโรงละครทางทิศใต้(สร้างในราวปี ค.ศ. 90-92) จุผู้ชมได้ถึง 3,000 คน มีจุดเสียงสะท้อนตรงกลางโรงละคร เชิญทดสอบกับความอัศจรรย์ เพียงพูดเบา ๆ ก็จะมีเสียงสะท้อนก้องเข้ามาในหูของเรา ชมวิหารเทพีอาร์เทมิส เป็นเทพีประจำเมืองเจอราช สร้างในราวปี ค.ศ. 150 สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับทำพิธีบวงสรวง และบูชายัญต่อเทพีองค์นี้ แบ่งเป็น 3 ชั้น คือ ชั้นนอก ชั้นกลาง ชั้นใน

นำท่านเดินเข้าสู่ถนนคาร์โด หรือ ถนนโคลอนเนด ถนนสายหลักที่ใช้เข้า-ออกเมืองแห่งนี้ บนถนนนั้นยังมีริ้วรอยทางของล้อรถม้า, ฝาท่อระบายน้ำ, ซุ้มโคมไฟ, บ่อน้ำดื่มของม้า ชมน้ำพุใจกลางเมือง (NYMPHAEUM) สร้างในราวปี ค.ศ. 191 เพื่ออุทิศแด่เทพธิดาแห่งขุนเขา ซึ่งเป็นที่นับถือของชาวเมืองแห่งนี้ มีที่พ่นน้ำเป็นรูปหัวสิงโตทั้งเจ็ด และตกแต่งด้วยเทพต่างๆ ประจำซุ้มด้านบนของน้ำพุฯลฯ

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน  ณ  ร้านอาหาร

จากนั้นนำท่านเดินทางไปยังเมืองอัจลุน อยู่ทางด้านเหนือของเมืองเจอราชไปเล็กน้อยเมืองที่ตั้งอยู่บนภูเขาสู

ที่ห้อมล้อมไปด้วยป่าต้นสนและต้นมะกอก ชมปราสาทแห่งเมืองอัจลุนถูกสร้างโดยพวกนักรบมุสลิม ในปี ค.ศ.

1184 -1185 ใช้เป็นป้อมทหารในการต่อสู้รบกับพวกนักรบครูเสด และในปี ค.ศ. 1260 ถูกเข้าทำลายโดย

กองทัพมองโกลส์

ได้เวลาอันสมควรนำทุกท่านเดินทางสู่เมืองเพตรา

ค่ำ        บริการอาหารค่ำ  ณ โรงแรมที่พัก

นำท่านเข้าพักโรงแรม ระดับ 4 ดาว PETRA PANORAMA HOTEL@ PETRA หรือเทียบเท่า

 

วันที่สาม (B/L/D)   เพตรา -วาดิรัม- JEEP TOUR - AQABA  

เช้า       บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่าน ชมเมืองเพตร้า (ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกปี ค.ศ. 1985 และ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของแห่งโลกใหม่ จากการตัดสินโดยการโหวตจากบุคคลนับล้านทั่วโลกในวันมหัศจรรย์ 07/ 07/ 07)

เมืองเพตร้า มหานครสีดอกกุหลาบที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาแห่งโมเสส (WADI MUSA)

มีประวัติศาสตร์อันยาวนานหลายพันปีเคยเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยทั้งชาวอีโดไมท์จวบจนกระทั่งถึงยุครุ่งเรืองเฟื่องฟูในการเข้ามาครอบครองดินแดนของชาวอาหรับเผ่าเร่ร่อน นาบาเทียนในช่วงระหว่าง 100 ปี ก่อนคริสตกาล และได้เข้ามาสร้างอาณาจักร, บ้านเมือง ฯลฯ จนกระทั่งในปีค.ศ. 106 นครแห่งนี้ตกอยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรโรมันที่นำโดยกษัตริย์ทราจันและได้ผนึกเมืองแห่งนี้ให้เป็นหนึ่งในอาณาจักรโรมันแห่งแหลมอาระเบียตะวันออก นครเพตร้าถึงคราวล่มสลายเมื่อหมดยุคของอาณาจักรโรมันทำให้ชาวเมืองนั้นละทิ้งบ้านเมืองจากกันไปหมดทิ้งให้เมืองแห่งนี้รกร้างไปพร้อมกับการพังทลายของเมืองหลังจากเกิดแผ่นดินไหวหลายครั้งจนสูญหายนับพันปีจวบจนในปี ค.ศ. 1812 นักสำรวจเส้นทางชาวสวิส นายโจฮันน์ลุดวิกเบิร์กฮาดท์ได้ค้นพบนครศิลาแห่งนี้ และนำไปเขียนในหนังสือชื่อ
TRAVEL IN SYRIA จนทำให้เริ่มเป็นที่รู้จักกันอย่าแพร่หลายจนถึงปัจจุบัน (ทุกท่านสามารถขี่ม้าภายในเส้นทางที่ม้าเดินในเพตราได้ ซึ่งรวมอยู่ในค่าบัตรแล้ว เพียงแต่ต้องจ่ายค่าทิปแก่คนจูงม้า ท่านละ 5 USD ต่อท่าน /ต่อเที่ยว หรือแล้วแต่การต่อรองราคา กับคนจูงม้ากรณีอยากขี่ลา, ขี่อูฐ, รถม้าลาก ฯลฯ สอบถามโดยตรงต่อเจ้าหน้าที่หรือสอบถามที่หัวหน้าทัวร์) ระยะทางที่เดินเข้าไปในเพตรา ประมาณ  800 เมตร บนถนนทรายเพื่อตรงเข้าสู่หน้าเมืองพร้อมชมทัศนียภาพรอบข้างที่เป็นภูเขาทั้งสองฝั่ง ธารน้ำ คลังสมบัติ ภูเขาทั้งสองฝั่งที่มีรูปร่างหน้าตาต่างกันออกไป
นำท่านเดินเท้าเข้าสู่ถนนเข้าเมือง THE SIQ เป็นช่องทางเดินที่ขนาบสองฝั่งด้วยหน้าผา กว่า 1.5 กิโลเมตรที่เกิดจากการแยกตัวของเปลือกโลกและการซัดเซาะของน้ำเมื่อหลายล้านปีก่อน ส่วนใหญ่ทางเดินร่มๆ สบายๆ (ทางเดินค่อนข้างลาดลง ไม่เหนื่อย ระหว่างทางก็มีมุมสวยๆ ให้เก็บภาพเรื่อยๆ และมีบรรดาคนมาขายของที่ระลึก เดินชมความสวยงามของผาหินสีชมพูสูงชันทั้ง 2 ข้างคล้ายกับแคนยอนน้อย ๆ และ สิ่งก่อสร้าง รูปปั้นแกะสลัก ต่างๆ

มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ เอล-คาซเนท์ (EL-KHAZNEH / TREASURY) สันนิษฐานว่าจะสร้างในราวศตวรรษที่
1-2 โดยผู้ปกครองเมืองในเวลานั้นเป็นวิหารที่แกะสลักโดยเจาะเข้าไปในภูเขาสีชมพูทั้งลูก มีความสูง 40 เมตร และมีความกว้าง 28 เมตร วิหารแห่งนี้ได้ถูกออกแบบโดยได้รับอิทธิพลศิลปะของหลายชาติเข้าด้วยกัน เช่น อิยิปต์, กรีก, นาบาเทียน ฯลฯ ภายในประกอบด้วย 3 ห้อง คือ ห้องโถงใหญ่ตรงกลางและห้องเล็กทางด้านซ้ายและขวาเดิมทีถูกเชื่อว่าเป็นที่เก็บขุมทรัพย์สมบัติของฟาโรห์อิยิปต์   
ชมโรงละครโรมัน (ROMANTHEATRE)ที่แกะสลักจากภูเขาโดยมีแนวราบที่นั่งเท่ากันและมีความสมดุลได้อย่างน่าทึ่ง สันนิษฐานเดิมทีสร้างโดยชาวนาบาเทียนต่อมาในสมัยที่โรมันเข้ามาปกครองได้ต่อเติมและสร้างเพิ่มเติม มีที่นั่ง 32 แถว จุผู้ชมได้ประมาณ 3,000 คน /อิสระในการเดินชมและถ่ายรูปภายในเมืองเพตร้า

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน  ณ ร้านอาหาร

หลังรับประทานอาหารแล้ว นำท่านเดินทางสู่ ทะเลทรายวาดิรัม (WADI RUM) ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาทีในการ

เดินทาง ทะเลทรายแห่งนี้ในอดีตเป็นเส้นทางคาราวาน จากประเทศซาอุฯเดินทางไปยังประเทศซีเรียและปาเสลไตน์ (เคยเป็นที่อยู่อาศัยของชาวนาบาเทียนก่อนที่จะย้ายถิ่นฐานไปสร้างอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ที่เมืองเพตร้า) ในศึกสงครามอาหรับรีโวลท์ระหว่างปีค.ศ. 1916–1918 ทะเลทรายแห่งนี้ได้ถูกใช้เป็นฐานบัญชาการในการรบของนายทหารชาวอังกฤษ ทีอี ลอว์เรนซ์และเจ้าชายไฟซาล ผู้นำแห่งชาวอาหรับร่วมรบกันขับไล่พวกออตโตมันที่เข้ามารุกรานเพื่อครอบครองดินแดนและต่อมายังได้ถูกใช้เป็นสถานที่จริงในการถ่ายทำภาพยนต์ฮอลลีวูดอันยิ่งใหญ่ในอดีตเรื่อง “LAWRENCE OF ARABIA”(และในปี ค.ศ.1963 สามารถกวาดรางวัลออสการ์ได้ถึง 7 รางวัล และรางวัลจากสถาบันอื่นๆ มากกว่า30 รางวัล นำแสดงโดย PETER O′TOOLE, OMAR SHARIF  

นำท่านนั่งรถกระบะเปิดหลังคารับบรรยาอากาศท่องทะเลทราย ที่ถูกกล่าวขานว่าสวยงามที่สุดของโลกแห่งหนี่ง ด้วยเม็ดทรายละเอียดสีส้มอมแดง อันเงียบสงบที่กว้างใหญ่ไพศาล (สีของเม็ดทราบนั้นปรับเปลี่ยนไปตามแสงของดวงอาทิตย์) ชมน้ำพุแห่งลอว์เรนซ์ สถานที่ในอดีตนายทหาร ทีอี ลอว์เรนซ์ ทหารชาวอังกฤษใช้เป็นสถานที่พักและคิดแผนการสู้รบกันพวกออตโตมัน 

ค่ำ        บริการอาหารค่ำ ณ กลางทะเลทราย CAMP WADI RUM
หลังจากมื้ออาหารอันแสนอร่อยแล้ว นำทุกท่าน กลับสู่เมือง อควาบา ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ  50 นาที
สู่เมืองท่าและเมืองท่องเที่ยวตากอากาศที่สำคัญของประเทศจอร์แดนเป็นเมืองแห่งเดียวของประเทศจอร์แดนที่ถูกประกาศให้เป็นเมืองปลอดภาษีมีประชากรอาศัยราว 70,000 คน

นำท่านเข้าพักโรงแรม CITY TOWER HOTEL@AQABA ระดับ 4 หรือเทียบเท่า

 

วันที่สี่  (B/L/D)       อควาบา AQABA – เรือท้องกระจก –เครัคหรือโชบัค – อัมมาน   

เช้า      บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทาง สู่เมืองอควาบา เมืองท่าและเมืองท่องเที่ยวตากอากาศที่สำคัญของประเทศจอร์แดนเป็นเมืองแห่งเดียวของประเทศจอร์แดนที่ถูกประกาศให้เป็นเมืองปลอดภาษีมีประชากรอาศัยราว 70,000 คน

นำท่านลง เรือท้องกระจก (GLASS BOAT) น้ำทะเลที่นี่ใสมาก แต่ด้วยความลึกและการมองผ่านกระจกหนาจึงทำให้ดูปะการังและซากเรือไม่ค่อยชัดมาก นำท่านแล่นสู่จุดที่ชมปะการัง ลึกแค่ประมาณ  5 -6 เมตร ส่วนจุดเรือจมลึกประมาณ 27 เมตร ปะการังโดยส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีสีสรร  สัตว์ทะเล  เช่น ปลาสิงโต ปลานกแก้ว Goby fish ปลิงทะเล หอยเม่น  และยังเป็นแหล่งดำน้ำลึกที่มีชื่อเสียง ทะเลที่มีน่านน้ำครอบคลุมถึง 4 ประเทศ คือ ประเทศจอร์แดน, อิสราเอล, อิยิปต์และ ซาอุดิอาระเบีย ชมความใสของน้ำทะเล, ปะการัง, ปลาทะเลหลากชนิด, เม่นทะเล, แมงกะพรุน ฯลฯ (ทะเลแดงเป็นทะเลแห่งประวัติสาสตร์ ที่ได้มีการกล่าวขานในพระคัมภีร์ของศาสนาคริสต์ว่าทะเลแห่งนี้เป็นสถานที่โมเสสได้ทำอัศจรรย์โดยการชูไม้เท้าแหวกทะเลแดงเป็นทางเดินพาชาวอิสราเอลหนีให้รอดพ้นจากการตามล่าของทหารอิยิปต์ เพื่อจับไปเป็นทาสของอียิปต์และจุดมุ่งหมายเพื่อเดินทางไปสู่แผ่นดินแห่งพันธะสัญญาที่พระเป็นเจ้าทรงมอบให้กับชาวอิสราเอล นั่นคือก็คือกรุงเยรูซาเลมในปัจจุบัน)  *** หมายเหตุ ทุกท่านสามารถ ลงดำน้ำดูปะการังได้ เตรียมเสื้อไปเปลี่ยนด้วยน่ะค่ะ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและกัปตันเรือ ***

เที่ยง     รับประทานอาหารกลางวัน BBQ บนเรือ
           
อาหารเที่ยงแบบบุฟเฟ่ต์บนเรือ มีทั้งปลา ไก่ และแกะบาร์บีคิว ทานกับผักสลัดและแป้งโรตี 

จากอควาบาเดินทางสู่เครัค ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ปราสาทเครัคจะปิดประมาณ 5 โมง
เราจึงนำท่านเที่ยวปราสาทครูเสดโชบัคแทน ซึ่งมีความสำคัญและลักษณะปราสาทคล้ายๆกัน แต่ท่านจะเห็นบ้าน
ใต้ถ้ำในสมัย 60 กว่าปีที่ผ่านมา บริเวณ นั้นๆ
นำท่านสู่ SHOUBAK ปราสาทครูเสดโชบัค หรือที่รู้จักกันในพวกนักรบครูเสดชื่อ มอนทรีลแห่ง ตะวันออก (MONTREAL) สร้างขึ้นโดยกษัตร์บอลด์วินที่ 1 แห่งเยรูซาเลม ในปี ค.ศ. 1115 เพื่อใช้เป็นป้อม ปราการควบคุมเส้นทางกองคาราวานที่จะเดินทางจากดามัสกัสไปอิยิปต์ ในอดีตเมืองแห่งนี้มีชาวคริสต์อาศัยอยู่ ราว 6,000 คน และในปี ค.ศ. 1189 ได้ถูกทำลายลงโดยนักรบมุสลิมภายใต้การนำทัพของ ซาลาดิน (SALADIN) บริเวณข้างล่าง หรือเขาข้างปราสาทโชบัค ท่านสามารถมองเห็นบ้านช่อง สภาพการอยู่ภายในถ่ำหลงเหลืออยู่ 

          หมายเหตุ  กรณีที่ออกจากอควาบาไว และสามารถตีไปทันปราสาทเครัค เราจะนำท่านเที่ยวเครัค

ตามเดิม    จากนั้นนำท่าน สู่เมืองเครัค ซึ่งตั้งอยู่บนที่ราบสูงขนาดใหญ่ ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันงดงามข้างทางระหว่างทางขึ้นสู่เขา โดยเฉพาะบริเวณที่ถูกเรียกขานกันว่าเป็น “แกรนด์แคนยอนแห่งจอร์แดน” "AL KARAK CASTLE’’”ปราสาทเครัค ตั้งอยู่ที่เมืองเครัค ทางตอนกลางของประเทศจอร์แดน นับเป็นปราสาทที่มีขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในช่วงยุคสงครามครูเสด จากประวัติศาสตร์สงครามครูเสดเป็นสงครามระหว่างคริสเตียนจากยุโรปและชาวมุสลิมซึ่งยึดครองพื้นที่แถบนี้รวมทั้งนครเยรูซาเล็ม นครศักดิ์สิทธิ์และสัญลักษณ์ของศาสนาอับราฮัมหลักทั้งสาม (ศาสนายูดาย ศาสนาคริสต์ และศาสนาอิสลาม) โดยชาวคริสต์ต้องการฟื้นฟูการเข้าถึงที่ศักดิ์สิทธิ์ในและใกล้เยรูซาเล็มปราสาทเครัคแห่งนี้สร้างในศตวรรษที่ 12 ปี ค.ศ. 1115 โดย King Baldwin ที่ 1 แห่งเยรูซาเลม เพื่อเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการควบคุมกองคาราวานในเส้นทางการค้าขายที่เชื่อกับประเทศอียิปต์ไปยังกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรีย โดยตัวปราสาทสร้างด้วยหิน กำแพงทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า หลังคาโค้งยาว แล้วก็เจาะร่องแสงเล็กๆ ลักษณะแบบนี้ทำให้ง่ายต่อการป้องกันศัตรูปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ยังคงเหลือโครงสร้างที่สมบูรณ์ การแวะเยี่ยมชมที่นี่ ทำให้เราได้เห็นมุมมองของการทำสงครามสมัยประวัติศาสตร์ (ครูเสด) 

นำท่านเดินทางกลับ สู่กรุงอัมมาน

ค่ำ        บริการอาหาร ณ โรงแรมที่พัก

นำท่านเข้าพักโรงแรมระดับ 4 ดาว SADEEN AMMAN HOTEL @AMMAN หรือเทียบเท่า 

 

วันที่ห้า (B/L/D)     อัมมาน –มาดาบา –MOUNT NEBO - ทะเล Dead Sea – อัมมาน

เช้า       บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่เมืองมาดาบา (ประมาณ 50 กิโลเมตร)  อดีตเส้นทางสำคัญสมัยโรมัน ดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์แห่งเยรูซาเล็ม และเมืองแห่งเรื่องราวของโมเสสที่สำคัญทางหน้าประวัติศาสตร์ของศาสนายูดา, คริสต์ และอิสลาม ยังเป็นศูนย์กลางที่ขึ้นชื่อเรื่องการทำโมเสก เป็นศิลปะการตกแต่งด้วยชิ้นแก้ว, หิน, หรือกระเบื้องชิ้นเล็กๆ ซึ่งใช้ในการตกแต่งมหาวิหาร หรือในปัจจุบันใช้ประยุกต์ในการตกแต่งบ้านเรือนหรือ เมืองแห่งโมเสก ชม โบสถ์กรีก-ออโธดอกซ์แห่งเซนต์จอร์จ ถูกสร้างในราวปี ค.ศ. 600 ยุคของไบแซนไทน์ ชมภาพแผนที่ดินแดนศักดิสิทธิ์แห่งเยรูซาเลม ตกแต่งโดยโมเสกสีต่างๆ ประมาณ 2.3  ล้านชิ้นแสดงถึงพื้นที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ในแถบรอบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน, เยรูซาเลม, แม่น้ำจอร์แดน, ทะเลเดดซี, เขาไซนาย, อียิปต์ ฯลฯ 

นำท่านเดินทางสู่ ยอดเขาเมาท์เนโบ MOUNT NEBO มีความสูง 817 เมตร จากระดับน้ำทะเล เชื่อกันว่าเป็นสถานที่ฝังศพของโมเสส ผู้นำชาวยิวส์ที่เดินทางจากอิยิปต์มายังเยรูซาเลม และเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแห่งหนึ่งของจอร์แดน ที่แห่งนี้เป็นสถานที่สุดท้ายของโมเสส ก่อนจะชี้ทางให้ผู้สืบทอดนำพาผู้คนไปยังดินแดนพันธสัญญา ในประเทศอิสราเอลปัจจุบัน เมื่อยืนอยู่บนยอดเขาจะมองไปเห็นดินแดนแห่งพันธะสัญญา THE PROMISED LAND  ที่โมเสสเคยเห็นบนยอดเขานี้ และเป็นที่จาริกแสวงบุญของชาวคริสต์มาแต่โบราณ และโบสถ์บนยอดเขาได้ถูกสร้างขึ้นในปลายศตวรรษที่สี่เพื่อเป็นการบ่งชี้จุดที่คาดว่าโมเสสเสียชีวิต   MOUNT NEBOยังเคยเป็นสถานที่มาเยือนของสันตะปาปา ของศาสนาคริสต์ โดยสันตะปาปาจอห์นปอลที่ 2 ได้มาแวะพำนักที่นี่ ระหว่างการเดินทางไปเยือนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ และได้ปลูกต้นมะกอก สัญญลักษณ์ของสันติภาพไว้ข้างๆโบสถ์ไบแซนไทน์ด้วย

ชมพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อม ภายในเก็บสิ่งของต่าง ๆ ที่ขุดพบภายในบริเวณนี้ พร้อมทั้งมีภาพถ่ายต่าง ๆ ภาพถ่ายที่สำคัญคือภาพที่โป๊บ จอห์น ปอลที่ 2 เสด็จมาแสวงบุญที่นี่และได้ประกาศให้เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ในปี ค.ศ. 2000ชมอนุสรณ์ไม้เท้าศักดิ์สิทธ์แห่งโมเสส ออกแบบเป็นลักษณะเป็นไม้เท้าในรูปแบบไม้กางเขน โดยอุทิศเป็นสัญลักษณ์ของโมเสส และพระเยซู   เชิญถ่ายรูป ณ จุดชมวิว โดยในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ท่านสามารถมองเห็น แม่น้ำจอร์แดน, ทะเลเดดซี, เมืองเจอริโก และประเทศอิสราเอล ได้จากจุดนี้อย่างชัดเจน

            จากนั้นนำท่านเดินทาง เดดซี

เที่ยง     บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารของโรงแรม (บุฟเฟ่ต์ INTERNATIONAL)

            จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ ทะเลเดดซี (DEAD SEA) ทะเลสาบเดดซีตั้งอยู่พรมแดนระหว่างอิสราเอลและจอร์แดน

             เกิดจากน้ำที่ไหลมาจากลำธารในจอร์แดน มีส่วนผสมของโซเดียมและแมกนีเซียม ทำปฏิกิริยากับน้ำพุร้อนที่อยู่

            ด้านล่างทะเลสาบ โดยมีความเค็ม มากกว่าทะเลอื่นถึง 4 เท่า มีความยาว 76 กิโลเมตร กว้างถึง 18 กิโลเมตร มีจุดลึก

            ที่สุดคือ 400 เมตร และอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล 417.5 เมตร นับเป็นพื้นที่ที่อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลมากที่สุดในโลก

            น้ำในทะเลเดดซีมีความหนาแน่นมาก มีเกลือละลายในน้ำถึง 25% จึงทำให้วัตถุลอยเหนือน้ำ แม้แต่คนว่ายน้ำไม่เป็นก็

            ลอยตัวได้ในเดดซีและถูกบันทึกลงในหนังสือ กินเนสส์ ว่า เป็นจุดที่ต่ำที่สุดในโลก

เชิญท่าน อิสระในการลงเล่นน้ำทะเลและพิสูจน์ ความจริงว่าท่านลอยตัวได้จริงหรือไม่ (การลงเล่นน้ำในทะเลนั้นมีวิธีขั้นตอนการลงเล่น และข้อควรระวังต่างๆ ควรฟังคำแนะนำจากมัคคุเทศก์ท้องถิ่นและหัวหน้าทัวร์) 

นำท่านเดินทางเข้า สู่กรุงอัมมาน ระหว่างทางแวะซื้อผลิตภัณฑ์ที่ทำจากเดดซี เช่น โคลนพอกตัว พอกหน้า สบู่ และสินค้าอื่นที่ทำจากเดดซีอีกมากมาย จากนั้นเดินทางต่อสู่กรุงอัมมาน

ค่ำ        บริการอาหาร ณ  โรงแรมที่พัก

นำท่านเข้าพักโรงแรมระดับ 4 ดาว SADEEN AMMAN HOTEL @AMMAN หรือเทียบเท่า 

 

วันที่หก (B/L/-)        AMMAN CITADEL – ROMANS THEATER - ห้าง CITY MALL-CARREFOUR - โอมาน  

เช้า       บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางชมDESERT CASERT กลุ่มปราสาทในทะเลทราย (DESERT CASTLES) 1 ใน 2 มรดกโลกของประเทศจอร์แดน สร้างขึ้นเพื่อใช้ในการพักของกองคาราวาน, ชมป้อมปราการกลางทะเลทราย ซึ่งเป็นตัวอย่างของศิลปะและสถาปัตยกรรมแบบอิสลามยุคต้น ๆ ที่สวยงาม มีการใช้ศิลปะโมเสก เฟรสโก การแกะสลักบนหินและพื้นปูน รวมทั้งภาพวาด ป้อมเหล่านี้ถูกใช้เป็นจุดพักของกองคาราวาน เพื่อการเกษตรและ เป็นศูนย์กลางการค้า ใช้กางเต็นท์เพื่อพักอาศัยและยังเป็นปราการให้กับผู้ปกครองจากมณฑลที่ห่างไกล ใช้ควบคุมดูแลเผ่าเบดูอิน และยังเป็นสถานบันเทิง และป้องกันศึกสงครามครูเสด

นำท่าน ชมรอบเมืองหลวงกรุงอัมมาน เมืองหลวงที่ตั้งอยู่บนภูเขา7ลูกและมีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 6,000 ปีผ่านชมย่านเมืองเก่า,เมืองใหม่,ย่านธุรกิจ,ตลาดใจกลางเมือง,ย่านคนรวย ฯลฯ

เที่ยง    ä บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

ชมป้อมปราการแห่งกรุงอัมมาน (CITDAEL) ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นจุดสังเกตเหตุบ้าน การเมืองต่างๆรอบเมืองเชิญอิสระถ่ายรูปตรงจุดชมวิวที่สวยที่สุดของเมืองแห่งนี้ โดยมีฉากหลังเป็น โรละครโรมัน ROMANSTHEATER ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศจอร์แดนจุผู้ชมได้ถึง 6,000 คน และตึกรามบ้านช่องที่ตั้งอยู่บนภูเขาสูงอันแปลกตายิ่งนักที่สันนิษฐานว่าน่าจะถูกสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 161-180 ในสมัยโรมัน พระราชวังเก่าอุมเมยาด สร้างขึ้นในประมาณปี ค.ศ. 720 โดยผู้นำชาวมุสลิม ของราชวงศ์ ในสมัยมุสลิมได้เข้ามาปกครองประเทศจอร์แดนซึ่งภายในประกอบห้องทำงาน, ห้องรับแขกฯลฯ 

ผ่านชมพระราชวังของพระมหากษัตริย์ อับดุลลาห์ที่สอง (RAGHADAN PALACE),ที่ตั้งอยู่บนภูเขามีทำเลที่สวยงามมากที่สุดในกรุงอัมมาน และมีทหารคอยเฝ้าดูแลตรวจตราอย่างเข้มงวด

ปล่อยช้อปปิ้งตลาดพื้นเมืองตามอัธยาศัย

 

ค่ำ         บริการอาหารเย็น  ณ ร้านอาหาร

19.00น.  นำทุกท่านอำลา จอร์แดน เดินทางสู่สนามบิน CHECK IN GROUP 

  สู่ท่าอากาศยานนานาชาติควีนอเลียอัมมาน AMM
  (โดยจะมีเจ้าหน้าที่ VISA เมื่อตอนขามาอำนวยความสะดวกแต่ท่าน) 

 

วันที่เจ็ด (-/-/-)       โอมาน – กรุงเทพฯ สนามบินสุวรรณภูมิ

01.45 น.ออกเดินทางสู่สนามบิน ประเทศโอมานโดยสายการบิน OMAN AIR เที่ยวบินที่ WY412

06.40 น.เดินทางถึงสนามบินประเทศโอมาน (มัสกัต MCT) เพื่อแวะเปลี่ยนเครื่อง                                        

09.05 น. ออกเดินทางกลับสู่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบิน OMAN AIR เที่ยวบินที่ WY815

17.45 น. เดินทางกลับถึง สนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยความสวัสดิ์ภาพและความประทับใจ มิรู้ลืมเลือน