Top

ที่เที่ยวสุดฮิต บาหลี

ที่เที่ยวสุดฮิต บาหลี

1. หมู่บ้านคินตามณี  (Kintamani)

หมุ่บ้านคินตามณี (Kintamani) เป็นหมู่บ้านที่มีความสวยงาม  ตั้งอยู่ริมปากปล่องภูเขาไฟกุนุง บาตูร์ มีทะเลสาบบาตูร์และภูเขาไฟกุนุงบาตูร์เป็นฉากหลัง เป็นจุดชมวิวที่สวยงามแห่งหนึ่งของบาหลี อากาศเย็นสบาย นักท่องเที่ยวนิยมมารับประทานอาหารที่ร้านอาหาร ชมวิวทิทัศทะเลสาปและภูเขาไฟเป็นจำนวนมาก การเดินทางสู่ Kintamani Highland อาจจะต้องใช้เวลาค่อนข้างนานนิดนึง เพราะว่าทางขึ้นเขามีความลาดชัน แต่วิวข้างทางสวยงามสุดยอดมากๆ  การเดินทางเข้าหมู่บ้านคินตามณี จะต้องเสียค่าเข้าหมู่บ้าน คนละ 10,000 รูเปี๊ยะ และ ค่ารถ 5,000 รูเปี๊ยะ   

 2. วัดเบซาห์กี (Pura Besakih)

ปุราเบซากิห์ (Pura Besakih) หรือวัดเบซากิห์ (วัดเบซากีห์) เป็นวัดที่มีความสำคัญที่สุดบนเกาะบาหลี คนบาหลียกให้เป็นวัดหลวง (Mother Temple) เป็นวัดในศาสนาฮินดูที่ใหญ่ที่สุดของบาหลี ยังถือเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ที่สุดเหนือวัดทั้งปวง มีบริเวณกว้างใหญ่ไพศาล ประกอบด้วยวัดเล็กๆ อีก 23 แห่ง แห่งที่เรียงรายอยู่เป็นขั้นๆ กว่า 7 ขั้นไปตามไหล่เขา มีฉากหลังคือภูเขาไฟกุนุงอากุง เป็นภูเขาไฟที่สูงที่สุดของเกาะบาหลี มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานมา ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์เลยที่เดียว วัดเล็กๆ ดังกล่าวก็จะมีความสำคัญต่างๆ กันไปโดยวัดที่มีความสำคัญที่สุด คือ ปุราเปนาทารัน อากุง (Pura Penataraa Aguan) ซึ่งตั้งอยู่ตรงกลาง ทุกๆวันจะมีคนบาหลีเดินทางมาประกอบพิธีทางศาสนา ทำให้เป็นสถานที่ที่สามารถเห็นธรรมเนียมประเพณีและการแต่งกายแบบพื้นเมืองทั้งชายและหญิง รวมทั้งการแบกทูนของบูชาบนศีรษะตามแบบดั้งเดิมด้วย หากนักท่องเที่ยวต้องการปีนเขากุหนุงอากุงสามารถทำได้ในช่วงเดือนกรกฏาคมถึงตุลาคม โดยจะต้องขออนุญาติจากทางวัดก่อนเพราะทางวัดไม่อนุญาตให้ปีนขึ้นไปสูงกว่าวัดขณะที่มีการทำพิธีกรรมทางศาสนาอยู่ วัดเบซากิห์เปิดเข้าชมทุกวัน เวลา 8.00-17.00 น.

 

3.วัดอูรูวาตู (Pura Uluwatu)

วัดอูลูวาตู (Pura Ulu Watu) หนึ่งในวัดที่เก่าแก่ที่สุดในบาหลีที่ถูกสร้างขึ้นตรงส่วยปรายของหน้าผาขรุขระบริเวณหาดอูลูวาตู โดยมีฉากด้านหลังเป็นแผ่นฟ้าและผืนน้ำแห่งท้องทะเล วัดตั้งอยู่ทางส่วนปรายทางทิศใต้ของบาหลี ในเขต South Kuta ห่างจากเดนปาซาร์ ประมาณ 30 กิโลเมตร ตั้งอยู่บนหน้าผาที่มีความสูงถึง 76 เมตร สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 10  และในสมัยศตษวรรษที่ 15 เคยมีนักบวชผู้ก่อตั้งรูปแบบของฮินดู-ธรรมะ นามว่า Dhang Hyang Dwijendra ได้เดินทางมาที่วัดแห่งนี้ และได้บรรลุ “ โมกษะ” หลุดพ้นรวมเป็นหนึ่งกับพระผู้เป็นเจ้าที่นี่ อูลูวาตู จึงได้รับสมญานามว่า “วัดที่มีอิทธิพลในการเป็นแนวทาง” ตามความเชื่อของชาวฮินดูหมายถึงวัดที่ปกป้องบาหลีให้รอดพ้นจากความชั่วร้ายทั้งปวง

 

4.วัดทานาล็อต (Tanah Lot)

วัดทานาห์ลอต มีลักษณะการสร้างบนโขดหินคล้ายเกาะเล็ก ๆ เวลาน้ำขึ้น จึงดูเหมือนวัดอยู่กลางทะเล เวลาน้ำลง ผู้คนสามารถเดินข้ามทางเดินไปยังตัววัดได้ เป็นวัดที่มีความศักดิ์สิทธิ์ซึ่งชาวบาหลีให้ความเคารพบูชาอย่างมาก มีทิวทัศน์และบรรยากาศที่สวยงาม วัดทานาห์ลอต เป็นวัดที่มีชื่อเสียงและถูกถ่ายรูปมากที่สุดในบาหลี และยังเป็น 1 ใน 7 วัดที่ถูกสร้างริมชายฝั่งทะเลของเกาะบาหลีอีกด้วย สำหรับการเข้าชมวัดนั้นอนุญาตให้เข้าไปข้างในได้เฉพาะผู้มาสักการะเท่านั้น หากนักท่องเที่ยวต้องการมาชมความงดงามของพระอาทิตย์ตกสามารถชมได้จากเนินหินที่อยู่ใกล้ๆกัน วิหารทานาห์ลอต (Pura Tanah Lot) สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่เทพเจ้าและปีศาจแห่งท้องทะเล เป็นวิหารที่ตั้งอยู่บนผาหินนอกชายฝั่ง ที่เกิดจากการกัดเซาะของเกลียวคลื่น โดยในช่วงน้ำขึ้นวัดจะถูกโอบล้อมไปด้วยน้ำเหมือนเกาะเล็กๆ ริมชายฝั่ง พอน้ำลดจะพบกับเนินหินและลานหินยื่นออกไปในทะเล สามารถเดินเท้าไปยังวัดได้อย่างสบายๆ เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมาก

 

5.ชายหาดคูต้า (Kuta Beach)

มุ่งหน้าไปยังหาดยอดนิยมของบาหลีแล้วสนุกกับการโต้คลื่น ดำน้ำสนอร์กเกิล และชมพระอาทิตย์ตกดินที่แสนงดงามน่าประทับใจ

ผ่อนคลายใต้ร่มชายหาด หรือเย็นฉ่ำไปกับการว่ายน้ำ ดำน้ำสนอร์กเกิล และเล่นกระดานโต้คลื่นในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่สุดแห่งหนึ่งในบาหลี ด้วยความที่ขึ้นชื่อเรื่องน้ำทะเลอุ่น แหล่งเล่นกระดานโต้คลื่นชั้นดี บริการนวดราคาถูก และจุดชมพระอาทิตย์ตกดินอันสวยงาม หาดคูตาจึงสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวนับล้านจากทั่วทุกมุมโลก

หากคุณพักอยู่ในภูมิภาคคูตาหรือใกล้ๆ กัน รับรองว่าคุณจะต้องอยากมาชายหาดนี้ทุกวันแน่นอน หาดคูตาเป็นชายหาดทอดยาวที่เชื่อมต่อหมู่บ้านคูตา เลอเกียน ตูบัน และเซมินยักบนชายฝั่งตะวันตกของบาหลี ไม่มีการแบ่งเขตที่ชัดเจนระหว่างหมู่บ้านเหล่านี้ เมื่อไม่ได้ใช้เป็นที่สำหรับชาวประมงท้องถิ่นและนักเล่นกระดานโต้คลื่นมืออาชีพอีกต่อไป หาดคูตาก็ได้กลายเป็นย่านความบันเทิงที่เต็มไปด้วยกิจกรรมมากมาย 

คลื่นเบาๆ และพื้นทะเลที่เป็นทรายทำให้หาดคูตาเหมาะกับนักเล่นกระดานโต้คลื่นทุกระดับฝีมือ ที่นี่มีโรงเรียนสอนเล่นกระดานโต้คลื่นที่บอกทั้งเทคนิคและวิธีหลีกเลี่ยงฝูงคนที่อยู่ในทะเล ถ้าการเล่นกระดานโต้คลื่นไม่ใช่แนวของคุณ ยังมีอย่างอื่นให้ทำอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็นพาราเซล บานาน่าโบ๊ต การสักชั่วคราว นวดแผนอินโด หรือการถักผม 

ในยามเย็น พักทานอาหารที่คาเฟ่ริมหาดพลางชมพระอาทิตย์ตกดินอันแสนงดงาม จะมีคนท้องถิ่นใบหน้ายิ้มแย้มมาที่โต๊ะเพื่อขายของฝากและเครื่องประดับทำมือ เมื่อฟ้ามืด คุณไม่จำเป็นต้องรีบกลับไปที่โรงแรม เพราะหาดคูตาแห่งนี้มีปาร์ตี้สนุกๆ รอคุณอยู่

 

6.บ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ วัดเทมภัคสิริงค์ (Obyek Wisata Tirta Empul)

ศาสนสถานที่เก่าแก่ และเป็นที่เคารพสักการะของชาวบาหลี ซึ่งมีอายุมากกว่าพันปี ในสมัยโบราณใช้ประกอบพิธีทางศาสนาในราชวงศ์กษัตริย์เท่านั้น ต่อมาจะเปิดให้ชาวบ้านได้เข้าไปกราบสักการะกัน วัดแห่งนี้ชาวบาหลีส่วนใหญ่มักนิยมเรียกว่า ปุระ เตียต้า เอ็มพูล (Pura Tirta Empul) เป็นวัดในศาสนาฮินดู (Pura แปลว่า วัด ส่วน Tirta Empul ก็หมายถึงบ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ หรือบ่อน้ำพุแห่งจิตวิญญาณ) ตั้งอยู่ใกล้เมือง เทมภัคสิริงค์ เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย วัดแห่งนี้มีถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ราว ปีคศ.962 (ศตวรรษที่ 10-14) สมัยราชวงศ์วาร์มาเดวา (Warmadewa Dynasty)

บ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ (เตียต้า เอ็มพูล) เป็นน้ำพุจากธรรมชาติที่ผุดขึ้นจากตาน้ำใต้ดินมาเป็นเวลายาวนานนับพันปี โดยไม่มีทีท่าว่าจะหมด สำหรับชื่อ เทมภัคสิริงค์ แปลว่า รอยเท้า มีเรื่องเล่าขานที่ถึงมาที่ไปของน้ำพุศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้อยู่บ้าง (รบกวนหาอ่านกันดูนะคะ เรื่องยาวอยู่เหมือนกัน) เอาเป็นว่า ชาวบาหลีมีความเชื่อกันว่า น้ำพุธรรมชาติ เตียต้า เอ็มพูล แห่งนี้ พระอินทร์เป็นผู้บันดาลให้เกิดน้ำพุ ดังนั้น ชาวบาหลีจึงมีความเชื่อว่า ถ้าได้อาบน้ำ และดื่มกินจะเป็นสิริมงคล และขับไล่สิ่งเลวร้าย ทั้งยังช่วยรักษาโรคภัยต่างๆ ได้ ดังนั้น ในวันสำคัญของทุกปี โดยเฉพาะวันเปลี่ยนศักราชใหม่ จะเห็นทั้งชาวบาหลี และนักท่องเที่ยวต่างพากันเดินทางมาต่อแถวกันยาวเหยียด เพื่อได้อาบน้ำ ล้างหน้า รดศีรษะ ดื่ม หรือรองน้ำเก็บใส่ภาชนะกลับบ้าน อันเป็นการชำระร่างกายให้บริสุทธิ์ และเป็นสิริมงคลเพื่อต้อนรับสิ่งใหม่ๆ โดยก่อนจะเข้าไปเคารพเทมภัคสิริงค์ เมื่อผ่านประตูทางเข้าท่านจะพบบ่อน้ำล้างตัวให้บริสุทธิ์ก่อน พิธีกรรมนี้มีชื่อเรียกว่า เมลูกัต (Melukat) ทุกท่านจะได้รับผ้าคาดเอว และโสร่งนุ่ง เก็บผมให้เรียบร้อย เพื่อเป็นการเคารพสถานที่ ตอนออกก็ต้องถอดคืนเขาด้วยนะคะ จากนั้นที่ด้านหน้า เทมภัคสิริงค์ หรือก่อนเข้าไปถึงบ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ เทมภัคสิริงค์ หรือ เตียต้า เอ็มพูล จะมีพราหม์สวดมนต์และทำพิธีไหว้สักการะที่โต๊ะบูชาให้สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเคารพเทมภัคศิริงค์ตามพิธีแบบฮินดู พร้อมดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์เพื่อเป็นสิริมงคล จากนั้นจึงค่อยอาบน้ำพุกันที่อ่างอาบน้ำโบราณ เตียต้า เอ็มพูล เวลาเดินเข้าไปด้านภายในจะมี บ่อน้ำอยู่ 3 บ่อ บ่อแรกเป็นบ่อปลาคาร์พจำนวนมากในน้ำใส่ บ่อถัดมาจึงเป็นบ่อสำหรับลงไปอาบ ผู้ที่มาอาบจะนำกระทงใส่ของสักการะ ทำจากเปลือกต้นกล้วยหรือใบตอง ในกระทงนั้นจะมีทั้งอาหารและดอกไม้ เอากระทงไปวางที่บนแท่นหัวปล่อยน้ำ หน้าหัวปล่อยน้ำพุไหลออกมาให้อาบทั้ง 12 หัว หัวปล่อยน้ำอยู่สูงกว่าศีรษะผู้มาอาบ น้ำไหลลงศีรษะได้พอดี น้ำในบ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์น้ำจืดสนิท น้ำจากบ่อผุดนั้นจะส่งไปตามท่อให้ชาวบ้านที่ศรัทธามาอาบ บางคนกรอกน้ำใส่ในขวด นำกลับบ้านเพื่อดื่มแก้โรคภัยไข้เจ็บได้ ไม่ต่างจากความเชื่อของไทยเรา และอีกบ่อจะเป็นบ่อน้ำแบบโบราณที่เขาเก็บอนุรักษ์ไว้ไม่ให้เข้าไปใช้ สำหรับบ่อน้ำที่ให้ผู้คนลงไปอาบนี้ ในทุกวันพระจันทร์เต็มดวงของเดือนตุลาคม ก็จะมีชาวบ้านจากหมู่บ้านมุนะคะยา เดินทางมาที่นี่พร้อมกับหินศักดิ์สิทธิ์จากวัดปุราซะเกนัน เพื่อประกอบพิธีชำระล้างหิน ให้บริสุทธิ์ อีกด้วย ข้อมูลเพิ่มเติม
- ค่าเข้าชมวัดเทมภัคสิริงค์ : ผู้ใหญ่ 15000 รูเปียห์ (ประมาณ 41 บาท)
เด็ก 7500 รูเปียห์ (ประมาณ 20.50 บาท)
- ต้องใส่โสร่งหรือผ้าคลุมท่อนล่าง ตามธรรมเนียมของวัดฮินดูแทบทุกแห่งในเกาะบาหลี
- เวลาเปิด 8.00-16.00 น.

** สำหรับนักท่องเที่ยว สิ่งที่ต้องย้ำเตือนกันมากๆ เลยก็คือ ห้ามถ่ายรูปชาวบาหลีขณะอาบน้ำเป็นอันขาด เพราะถือเป็นเรื่องที่หยาบคายมาก ชาวบาหลี ถือว่า การอาบน้ำเป็นพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ จีงไม่ควรไปรบกวน รวมถึงการประกอบพิธีพราหมณ์ภายในวัดก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ถ่ายภาพ เช่นกัน และเวลาเข้าไปอาบน้ำช่วงเทศกาลที่มีคนรอคิวจำนวนมาก ก็ไม่ควรแช่น้ำนานเกินไป

7. วัดถ้ำช้าง (pura goa gajah)

 

พาเที่ยวอีกวัดเก่าแก่แห่งหนึ่งที่ วัดถ้ำช้าง Pura Goa Gajah ตั้งอยู่ในกลางเกาะบาหลีใกล้ย่าน Ubud (จากอูบุดประมาณ 5 km) วัดแห่งนี้มีความโดดเด่นอยู่ที่มีถ้ำที่มีแกะสลักหินด้านหน้าขนาดใหญ่ ลักษณะคล้ายใบหน้าของช้าง ถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญของที่นี่ มีความสวยงามแปลกตาและเก่าแก่และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก Unesco Heritage Stie ในปี 1995

ถ้ำแห่งนี้ ถูกค้นพบโดยนักโบราณคดีชาวฮอลแลนด์ในปี 1923 ด้านนอกตัวถ้ำที่เป็นหินนั้นใช้การเจาะและสลักได้อย่างน่ากลัวทีเดียว จนชาวบาหลีเชื่อว่าเป็นปากของปีศาจร้าย ส่วนหุ่นหินสองตัวที่ตั้งอยู่ซ้ายขวานั้น คือ รูปปั้นทหารเฝ้าประตู ตามความเชื่อของชาวบาหลีนั้น เค้าจะนำผ้าเหมือนผ้าลายสก็อตสีขาวดำตารางมาพันรอบๆ รูปปั้นทหารยามเกือบทุกแห่งของวัด ถ้าเราสังเกตดีๆ ความหมายของสีขาวดำบนผ้า ก็คือความดี ความชั่วนั่นเอง
ออกมาจากถ้ำ ก็เข้าสู่บริเวณสำหรับทำพิธีต่างๆ ที่เห็นเป็นเหมือนศาลานี้ เรียกว่า The Bale Piasen สำหรับวางสิ่งของบูชา มีอยู่ทุกวัดในบาหลี หลังคาของบรรดาศาลาต่างๆ ก็ทำมาจากหญ้าหนาๆ กันน้ำกันฝนได้ดีเยี่ยม นอกจากบริเวณหลักของวัดที่เป็นพื้นที่ของศาสนาฮินดูซึ่งเป็นศาสนาหลักของบาหลีแล้ว (เกาะอื่นที่เหลือของอินโดนีเซียนับถืออิสลามทั้งหมด) ลงบันไดไปด้านล่างกันต่อ จะเป็นส่วนของวัดในศาสนาพุทธ
เราจะเห็นก้อนหินขนาดใหญ่ตกลงมากองอยู่มากมายข้างทางเดิน ก้อนหินเหล่านี้ คือซากเจดีย์เก่าที่หักพังลงมา เมื่อเดินขึ้นไปอีกจะเป็นศาลเจ้าอีกแห่งหนึ่ง แนะนำมาเที่ยวเลยสำหรับทริปบาหลี น่าสนใจทีเดียวสำหรับที่วัดถ้ำช้างนี้

 8.วัดอูลันดานูบราตัน (Pura Ulun Danu Bratan)

ปุราอูลันดานูบราตัน (Pura Ulun Danu Bratan) หรือวัดอูลันดานูบราตัน ตั้งอยู่บริเวณกลางน้ำริมทะเลสาบบราตัน มีฉากหลังเป็นภูเขาไฟสูงทะมึน บางช่วงถูกคั่นด้วยปุยเมฆสีขาว วัดนี้สร้างตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 เพื่อใช้ทำพิธีทางศาสนาพุทธและฮินดู รวมทั้งอุทิศแด่เทวี ดานู เทพแห่งสายน้ำ ไม่สามารถเดินข้ามไปยังวัดได้ มีลักษณะเด่นตรงศาลาซึ่งมีหลังคาทรงสูงที่เรียกว่าเมรุ มุงด้วยฟางซ้อนกันถึง 11 ชั้น สวยงามมากมักปรากฏอยู่ในภาพถ่ายโฆษณาการท่องเที่ยวของบาหลีเสมอ ต้องเสียค่าเข้าชมคนละ 3,000รูเปียห์


- ทะเลสาบบราตัน (Lake Bratan) เป็นทะเลสาบที่มีมนต์ขลัง ฉากหลังคือทุ่งข้าวขั้นบันไดที่ค่อย ๆ ลาดต่ำลง อยู่ที่เบดูกัลป์ (Bedugu) เป็นทะเลสาบที่มีชื่อเสียงซึ่งมีรีสอร์ทให้นักท่องเที่ยวที่ต้องการธรรมชาติแบบทุ่งหญ้า ท้องนา และภูเขาได้เข้าพักด้วย ในตอนเช้าหากปราศจากหมอกจะได้เห็นวิวที่สวยงามของยอดเขาคินตามณี (Kintamani) เมาต์อากุง (Mount Angung) เรื่อยไปจนถึงทางทิศตะวันออกนอกจากนี้ยังเป็นศูนย์รวมกิจกรรมทางน้ำสร้างความตื่นเต้น เช่น สกีน้ำ การล่องเรือ และภายเรือในทะเลสาบ

9. ตลาดอูบุด (Ubud Market) 

บาหลี ตลาดเช้าอูบุด วัด Taman Ayun, วัดริมทะเลสาบท่ามกลางม่านหมอก Pura Ulun Danu Beratan และ น้ำตก Git Git ตื่นแต่เช้าตรู่ ลงมารอรถตอนหกโมง แป๊บนึงคนขับก็มา เกรงใจเค้าจังเลย ต้องตื่นแต่เช้ามาขับรถให้เรา
นั่งชมวิวท้องฟ้ามีพระอาทิตย์กำลังขึ้น ผ่านทุ่งนา ชมบ้านเมืองไปซักพัก ก็มาถึงตลาดเช้าของเมืองอูบุด นัดคนขับให้มารับเราอีกทีตอนแปดโมง

ตลาดที่นี่ก็ไม่ได้กว้างใหญ่มาก ถ้าเป็นเวลากลางวันเย็น ก็จะขายของที่ระลึกทั่วไป แต่พอยามเช้าก็คึกคักเลย มีแต่คนท้องถิ่นมาเดิน ที่เห็นโดยทั่วไปก็จะมีขายดอกไม้ ทั้งแบบเป็นกลีบ เป็นดอกสดๆ และแบบจัดใส่กระทงแล้ว แล้วก็มีร้านขายผลไม้ ขนม เดินไปอีกหน่อยจะเป็นโซนขายผัก ด้านล่างลงไปขายพวกของสด เนื้อสัตว์ เดินชมดอกไม้สวยๆ ยามเช้ากันค่ะ มีสารพัดดอกไม้เลย เท่าที่พอจะรู้ชื่อ ไฮแดรนเยีย เฟื่องฟ้า ดาวเรือง จำปี ลีลาวดี ชบา ดอกเทียน บานไม่รู้โรย
และยังมีใบไม้ กระทงอีกหลายแบบเลย